MPI กันยายน 2568 ขยายตัว 1.02% ยานยนต์ไฟฟ้า–คนละครึ่งพลัส หนุนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย

MPI เดือนกันยายน 2568 กลับมาขยายตัว 1.02% รับแรงหนุนจากยานยนต์ไฟฟ้าและมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” หนุน GDP อุตสาหกรรมโต

อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 2568
  • Share :

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ระดับ 94.56 ขยายตัว 1.02% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบหลายเดือน รับแรงหนุนจากการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุน GDP ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นราว 0.1% หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท

30 ตุลาคม 2568 — นายศุภกิจ บุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ระดับ 94.56 ขยายตัวร้อยละ 1.02 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 58.13 เนื่องจากยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การผลิตรถยนต์กลับมาขยายตัวอีกครั้งอยู่ที่ร้อยละ 5.57 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงการท่องเที่ยวของคนในประเทศขยายตัวเนื่องจากโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การปรับลดค่าไฟฟ้าและโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 2 เป็นต้น ขณะที่ ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ระดับ 93.36 หดตัวร้อยละ 2.40 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 57.39

สำหรับปัจจัยที่กดดันภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าจะมีความชัดเจนเรื่องภาษีตอบโต้ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บเพิ่มเติมจากไทยที่ร้อยละ 19 แต่สหรัฐฯ ยังมีการทบทวน  เก็บภาษีนำเข้ารายสินค้าเพิ่มเติมในกลุ่มสินค้าไม้ ยา เฟอร์นิเจอร์ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น จากกระแสเงินทุนไหลเข้าและทิศทางดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าส่งออกของไทยสูงขึ้นในตลาดโลก กระทบความสามารถทางการแข่งขันด้านราคาของสินค้าส่งออกเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกัน โดยอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนการนำเข้าวัตถุดิบน้อยและมีสัดส่วนการส่งออกมาก เป็นกลุ่มที่มีการใช้วัตถุดิบในประเทศ เป็นหลักและมีการส่งออกมาก จึงได้รับผลกระทบจากรายรับจากการส่งออกที่น้อยลง รวมถึงการท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น อาหารแช่แข็ง ไส้กรอก กระเป๋าเดินทาง รองเท้ากีฬา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ด้านระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทย เดือนตุลาคม 2568  “ส่งสัญญาณเฝ้าระวัง” โดยปัจจัยในประเทศโดยรวมส่งสัญญาณเฝ้าระวัง จากการลงทุนภาคเอกชนและความเชื่อมั่น  ด้านคำสั่งซื้อที่ปรับตัวลดลง ด้านปัจจัยต่างประเทศส่งสัญญาณเฝ้าระวังลดลง จากภาคการผลิตในภูมิภาคอาเซียนเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวและการผลิตปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตของสหภาพยุโรปยังคงซบเซา

“ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติดำเนินโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี 2568 และแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน ในส่วนของการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคและบริโภคจะมีกลุ่มสินค้าและบริการที่สามารถใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม บริการขนส่งสาธารณะ รวมถึงซื้ออาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุปสงค์ของสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ในเบื้องต้น สศอ. ประเมินว่า ภาคอุตสาหกรรมจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการดังกล่าว โดยคาดว่า GDP ภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.1 หรือขยายตัวประมาณ 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลของนโยบายอาจจะขยายตัวได้มากกว่านี้ หากรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนในการยกระดับ อุปสงค์รวมของประชาชนในประเทศอย่างต่อเนื่องเพิ่มเติมควบคู่กับมาตรการข้างต้น” นายศุภกิจ กล่าว

อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนกันยายน 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

ยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.57 จากผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฮบริดไม่เกิน 1800 ซีซี รถยนต์นั่งปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์ดีเซล และรถยนต์นั่งไฟฟ้า เป็นหลัก ตามการขยายตัวของตลาดในประเทศและการส่งออกจากความนิยมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเพิ่มขึ้น สำหรับรถบรรทุกปิคอัพขยายตัวได้มากขึ้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก

ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.56 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และแก๊สโซฮอล์ 95 เป็นหลัก เนื่องจากความต้องการของตลาดที่ขยายตัว รวมถึงผลของฐานต่ำในปีก่อนที่มีผู้ผลิตบางรายหยุดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตบางส่วน

ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.40 จากผลิตภัณฑ์ Printed Circuit Board Assembly (PCBA) เป็นหลัก ตามความต้องการของตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตเดือนกันยายน 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

เครื่องจักรอื่น ๆ ที่ใช้งานทั่วไป หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 23.00 จากผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ เป็นหลัก เนื่องจากการหดตัวของตลาดในประเทศและตลาดส่งออก ประกอบกับมีสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ

กาแฟ  ชา  และสมุนไพรผงสำหรับชงเป็นเครื่องดื่ม หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 85.15 จากผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูป เป็นหลัก เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่หยุดผลิตต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ประกอบกับมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่มีราคาถูก

ผลิตภัณฑ์คอนกรีต  ปูนซีเมนต์  และปูนปลาสเตอร์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.00 จากผลิตภัณฑ์เสาเข็มคอนกรีต คอนกรีตผสมเสร็จ และท่อซีเมนต์ เป็นหลัก ตามการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และงานก่อสร้าง จากภาวะเศรษฐกิจและสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ ประกอบกับราคาสินค้า ปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ


#ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม2568 #ThailandMPIIndex2025 #ดัชนีmpi2568 #สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม #สศอ #คนละครึ่งพลัส #MReportTH #ข่าวอุตสาหกรรม


บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / X / YouTube @MreportTH