NTT DoCoMo หนึ่งในผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลักในประเทศญี่ปุ่น ประกาศเปิดให้บริการตรวจสอบและแนะนำเส้นทางและวิธีเดินทางแบบรายบุคคล โดยใช้การระบุตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือในพื้นที่เสาสัญญาณเป็นฐานข้อมูล ซึ่งระบบจะทำการคำนวนว่าในวันหนึ่งมีผู้เดินทางด้วยยานพาหนะชนิดใดเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่ง NTT DoCoMo อยู่ระหว่างการเร่งพัฒนา และตั้งเป้าเริ่มให้บริการในปีงบประมาณ 2020 เพื่อให้ทันกับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นมากในช่วงโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ซึ่งคาดการณ์ว่า บริการนี้จะมีเสียงตอบรับองค์กรภาคคมนาคมเป็นอย่างดี

ปัจจุบัน เสาสัญญาณโทรศัพท์ในญี่ปุ่น ได้รับสัญญาณทั้งจากการโทรและอีเมล์ ทำให้สามารถระบุตำแหน่งโทรศัพท์มือถือในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง NTT DoCoMo ระบุว่า หากนำข้อมูลชุดนี้มาประมวลผลแล้ว ก็จะสามารถใช้ในการประมวลตำแหน่ง และปริมาณผู้เดินทางในพื้นที่นั้นได้ นอกจากนี้ ยังสามารถวิเคราะห์ความเร็วในการเดินทางได้จากการความเร็วในการเปลี่ยนพื้นที่สัญญาณอีกด้วย

ในประเทศญี่ปุ่น มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือของ NTT DoCoMo อยู่ประมาณ 76 ล้านราย และนักท่องเที่ยวอีก 7.5 ล้านราย ซึ่งระบบจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลไม่ละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งจากการทดลองวิเคราะห์ ทำให้สามารถชี้แจงข้อมูลได้อย่างแม่นยำ ยกตัวอย่างเช่น ในวันที่ 20 ตุลาคม 2017 จากจำนวนผู้ที่เดินทางจากจังหวัดไอจิมายังโตเกียว มีผู้เดินทางผ่านทางพิเศษโทเม (Tomei Expressway) 1% ทางพิเศษชินโทเม (Shin-Tomei Expressway) 4.2% ซึ่งรวมแล้วมีความใกล้เคียงกับรายงานจาก Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism (MLIT) ซึ่งอยู่ที่ 5.4% เป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ องค์กรด้านการคมนาคม ยังสามารถนำข้อมูลชุดนี้ไปใช้ในการปรับผังเดินรถบัส และตำแหน่งป้ายรถให้เหมาะสมได้อีกด้วย รวมถึงคาดการณ์ว่าจะสามารถให้บริการรถรับส่งนักท่องเที่ยวจากสถานีรถไฟหรือป้ายรถบัสได้อย่างเหมาะสม และสามารถทำได้กระทั่งการตรวจสอบว่าในย่านการค้านั้นมีนักท่องเที่ยวส่วนมากเดินทางมาจากเส้นทางใด เพื่อใช้ในการจัดโปรโมชั่นได้อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้คาดหวังได้ว่าในอนาคต Big Data จะยิ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการคมนาคมอย่างแน่นอน