Nissan คาด ปี 2020 ขาดทุน 6,300 ล้านเหรียญ
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2020 นิสสัน (Nissan) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2020 (เมษายน-มิถุนายน) เผยยอดขายยานยนต์ทุกตลาดทั่วโลกลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ความต้องการลดลง ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องปิดโชว์รูม และโรงงานหลายแห่ง แม้ว่าปัจจุบันจะสามารถกลับมาเปิดทำการได้ แต่ก็ประสบปัญหาการผลิตไม่เต็มกำลัง เนื่องจากยอดสั่งซื้อที่ลดลง และคาดการณ์ว่าผลกระทบนี้ส่งผลต่อธุรกิจต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ผลประกอบการและยอดขายยานยนต์นิสสัน ประจำไตรมาสแรกปี 2020
โดยในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนที่ผ่านมา Nissan มีรายได้สุทธิ 1,174,200 ล้านเยน หรือราว 11,076 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลง 50.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทำให้ผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 285,600 ล้านเยน หรือราว 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับยอดขายยานยนต์ทั้งตลาดทั่วโลกในไตรมาสนี้อยู่ที่ 12.49 ล้านคัน ลดลง 44.5% จากปีที่แล้ว โดย Nissan ทำยอดขายได้ 643,000 คัน ลดลง 47.7% คิดเป็นสัดส่วนในตลาดโลกที่ 5.2% ลดลง 0.3% ตัวเลขยอดขายยานยนต์นิสสันตามภูมิภาคหลัก มีดังนี้
- ญี่ปุ่น ยอดขายรวม 84,000 คัน ลดลงจากไตรมาสก่อน 33.7% แต่มีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้น 11% ซึ่งเป็นผลจากยอดขาย Nissan Roox ซึ่งออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคม และคาดการณ์ว่าจะทำยอดได้ดีขึ้นจากยอดขาย Nissan Kicks ที่ออกสู่ตลาดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
- จีน ยอดขายรวม 207,000 คัน ลดลง 39.9% และมีส่วนแบ่ง 6.2% เพิ่มขึ้น 0.5% อย่างไรก็ตาม แม้ยอดขายจะลดลงจากไตรมาสก่อน แต่ก็มีการเติบโตจากปีก่อนอยู่ที่ 4% เช่นเดียวกัน
- สหรัฐอเมริกา ยอดขายรวม 177,000 คัน ลดลง 49.5% อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่า Nissan Rogue โมเดลใหม่จะกระตุ้นยอดขายให้ดีขึ้นในไตรมาสถัดไป
ตัวเลขคาดการณ์ ปีงบประมาณ 2020
จากผลกระทบต่อเนื่องของโควิด-19 ในตลาดโลก Nissan ประเมินว่า ยอดขายยานยนต์ทั้งตลาดทั่วโลกจะอยู่ที่ 72.04 ล้านคัน ลดลง 16% จากปีที่แล้ว ซึ่งยอดขายยานยนต์นิสสันคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 4.125 ล้านคัน ลดลง 16.3% และจะมีส่วนแบ่งในตลาดโลกอยู่ที่ 5.73% เทียบเท่าปีที่แล้ว
ตัวเลขคาดการณ์ของปีงบประมาณ 2020 นิสสันจะมีรายได้สุทธิ 7,800,000 ล้านเยน หรือราว 73,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดทุนสุทธิ 670,000 ล้านเยน หรือราว 6,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจงดจ่ายเงินปันผลในปีนี้ และให้ความสำคัญกับการรักษากระแสเงินสดมากยิ่งขึ้น โดยคาดการณ์ว่า Nissan NEXT transformation plan ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ 4 ปี (FY 2020-2023) ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้จะช่วยประคองให้ผลประกอบการของบริษัทดีขึ้นได้
ตามแผนยุทธศาสตร์นี้เอง Nissan ได้เปิดตัว Crossover SUV รุ่น Ariya เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยย้ำว่า ยานยนต์รุ่นนี้คือสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% และจะเป็นก้าวใหม่สู่เป้าหมายยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคันภายในปี 2023
อ่านต่อ
