AI นำสู่ยุคใหม่ของ Japan Airlines ทำนายความเสียหายของใบพัดเครื่องบิน

อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 2566

Japan Airlines (JAL) เริ่มโครงการพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีการจดจำภาพเพื่อตรวจสอบภายในเครื่องยนต์ ที่อาจนำไปสู่การคาดการณ์ความเสียหาย

เครื่องยนต์ไอพ่นของเครื่องบินมี "ใบพัด" (Turbine Blades) ซึ่งเป็นส่วนประกอบรูปทรงขนนกที่ละเอียดซึ่งมีบทบาทสำคัญ เครื่องยนต์เหล่านี้ประกอบด้วยใบพัดบาง ๆ หลายร้อยใบเรียงกันเป็นแถว พวกมันควบคุมพลังงานของก๊าซอุณหภูมิสูงและความดันสูงซึ่งเป็นผลมาจากเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ถูกเผาไหม้เพื่อหมุนเพลาของเครื่องยนต์ทำให้เกิดแรงขับ เครื่องยนต์ส่วนนี้ต้องเผชิญกับความเครียดสูงสุด

Advertisement

ในการตรวจสอบใบพัด ช่างเครื่องยนต์มักใช้กล้องเอนโดสโคปทางอุตสาหกรรมเพื่อตรวจดูภายใน เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อความเสียหายของใบพัดแต่ละใบที่มีความซับซ้อน ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์ สัญชาตญาณ และความเชี่ยวชาญหลายปี เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ทำให้มีความพยายามในการกระจายภาระงานของช่างเครื่อง และช่วยให้การถ่ายโอนทักษะเป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะรองรับต่อความท้าทายในการขาดแคลนแรงงานในอนาคต

วันที่ 25 พฤษภาคม 2023 ได้มีการเปิดเผยถึงความร่วมมือระหว่าง JAL และ CRESCO ผ่าน "JAL Innovation Lab" ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ JAL สำหรับนวัตกรรมแบบเปิด ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการจดจำภาพด้วย AI ของ CRESCO และความเชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ของเครื่องจากสาขาจักษุวิทยา โครงการริเริ่มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับแต่งการตรวจสอบกล้องเอนโดสโคป คาดการณ์ความเสียหายของใบพัด จดจำความเสียหายโดยอัตโนมัติ และอำนวยความสะดวกในการถ่ายทอดทักษะ

การบรรลุวัตถุประสงค์นี้จำเป็นต้องมีการสะสมข้อมูลเครื่องจักรในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างกว้างขวาง ในขั้นต้น เครื่องบินแอร์บัส A350-900 ของยุโรปจำนวน 16 ลำซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความก้าวหน้า จะได้รับการตรวจสอบ กล้องเอนโดสโคปจะถูกนำมาใช้เพื่อสังเกตภายในเครื่องยนต์โดยเก็บข้อมูลรูปภาพของใบพัด บันทึกการตรวจสอบเหล่านี้จะถูกจัดเก็บตามลำดับเวลาเป็นข้อมูล (วิศวกรรมของ JAL) เสริมด้วยข้อมูลเครื่องยนต์ที่รวบรวมระหว่างการปฏิบัติงานตามปกติ รูปแบบของรอยขีดข่วนที่บ่งชี้ถึงความเสียหายและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นจะได้รับการเรียนรู้

A350 ทำหน้าที่เป็นเครื่องบินเรือธงของ JAL โดยมีแผนจะเปิดตัวเครื่องบินสูงสุด 56 ลำ (รวมถึง 25 ตัวเลือก) สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ รวมเป็น 1,000 ลำ เนื่องจากเครื่องบินเหล่านี้มีกำหนดให้บริการระยะยาว การพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบจึงรับประกันประสิทธิภาพที่ยั่งยืน นอกจากนี้ เครื่องบินรุ่นใหม่ยังสามารถติดตามแนวโน้มการเสื่อมสภาพอย่างเป็นระบบ (JAL Engineering)

คาดว่าจะนำเครื่องมือตรวจสอบเหล่านี้ไปใช้งานจริงหลังปี 2025 เมื่อมีการสร้างเทคโนโลยีการทำนายความเสียหาย ก็สามารถเปิดใช้งาน "การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์" เพื่อรักษาใบพัดในเชิงรุกได้ การพัฒนานี้มีศักยภาพที่จะเพิ่มความปลอดภัยทางอากาศได้อย่างมาก

#AI #Inspection #aerospace #JAL #Mreport #ข่าวอุตสาหกรรม

บทความยอดนิยม 10 อันดับ