ตลาดทุน “LiVE Exchange” ให้ SMEs - Startups

ส.อ.ท. จับมือ ตลาดหลักทรัพย์ และ KPMG ปูแนวทางสู่ตลาดทุน “LiVE Exchange” ให้ SMEs-Startups

อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 2564
  • Share :
  • 1,912 Reads   

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเคพีเอ็มจี ประเทศไทย จับมือครั้งสำคัญ จัดทำหลักสูตรบ่มเพาะผู้ประกอบการ SMEs-Startups ที่มีศักยภาพและต้องการระดมทุนในตลาดทุนผ่าน LiVE Exchange

Advertisement

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2564 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “การส่งเสริมสมาชิกให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่าง ๆ เป็นภารกิจที่สำคัญที่สภาอุตสาหกรรมฯ ดำเนินการมาโดยตลอด สำหรับการระดมทุนในตลาดทุนเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สมาชิกให้ความสนใจ ซึ่งที่ผ่านมา การระดมทุนในตลาดทุนผ่าน SET และ mai ค่อนข้างยากสำหรับธุรกิจ SMEs และ Startups แต่ด้วยการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SMEs และ Startups หรือ LiVE Exchange ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างพัฒนากฎเกณฑ์และระบบงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะช่วยทำให้ผู้ประกอบการ SMEs และ Startups สามารถเข้าถึงการระดมทุนได้ง่ายขึ้น ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง

อย่างที่ทราบว่าสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ กว่าร้อยละ 80 เป็นผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงกลุ่ม Startups ใหม่ ๆ ที่เริ่มเข้ามาในเครือข่ายของสภาอุตสาหกรรมฯ เอง การพัฒนา LiVE Exchange จะช่วยเปิดโอกาสให้สมาชิกที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะขยายธุรกิจให้เติบโต มีแหล่งเงินทุนมารองรับ การจัดทำความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมฯ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และเคพีเอ็มจี ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับระดับสากล ในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นการสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ให้กับสมาชิก โดยอยู่ระหว่างการพัฒนารูปแบบการจัดทำโครงการต่าง ๆ ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และเคพีเอ็มจี ซึ่งหากมีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ สภาอุตสาหกรรมฯ จะมีการกำหนดอัตราพิเศษสำหรับสมาชิก รวมถึงจะได้จัดหางบประมาณมาสนับสนุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายดังกล่าวในลำดับต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีสมาชิกสนใจและพร้อมจะพัฒนาเติบโตกว่า 100 บริษัท”

อ่านบทความ: เทคนิคการลงทุนในตลาดหุ้น ต้องรู้อะไรบ้าง?

ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านกลไกตลาดทุนของผู้ประกอบการทุกขนาด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs และ Startups  ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้ร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. พัฒนากฎเกณฑ์รองรับการระดมทุนในวงกว้าง (IPO) และเตรียมจัดตั้งตลาดรองสำหรับ SMEs และ Startups หรือ LiVE Exchange เพื่อเพิ่มช่องทางการระดมทุนสำหรับผู้ประกอบการและเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับผู้ลงทุน โดยการพัฒนา LiVE Exchange ใช้แนวคิด Light-touch supervision โดยปรับกฎเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม เพื่อให้ SMEs และ Startups เข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการ LiVE Exchange ได้ภายในสิ้นปี 2564

นอกจากนี้ เพื่อให้ SMEs และ Startups มีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุน กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดบริการ LiVE Platform โดยร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนกว่า 25 ราย พัฒนาองค์ความรู้ และบริการต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ อาทิ การเรียนรู้ผ่าน e-Learning บริการ Business Coaching เป็นต้น ความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเคพีเอ็มจี ประเทศไทย ครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและความพร้อมของผู้ประกอบการ SMEs และ Startups ที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งต่อยอดบริการบน LiVE Platform ให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs / Startups ได้มากยิ่งขึ้น”

นายเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเคพีเอ็มจี ประเทศไทย กล่าวว่า “ผมและเคพีเอ็มจี ประเทศไทยรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ SMEs และกลุ่ม Startups ให้มีศักยภาพและความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุน เพราะกลุ่มธุรกิจเหล่านี้มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เคพีเอ็มจี ประเทศไทย มีประสบการณ์ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ รวมทั้งการบริหารจัดการปัญหาและอุปสรรคของผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการขยายธุรกิจและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นอย่างดี โดยเแต่ละองค์กรต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ให้ครบถ้วนและวิเคราะห์เชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านดำเนินธุรกิจ การเงิน การบัญชี ข้อบังคับทางกฎหมายและภาษี เคพีเอ็มจี ประเทศไทย ในฐานะผู้ให้บริการด้านสอบบัญชี ภาษี กฎหมายและที่ปรึกษาธุรกิจ มีความพร้อม มีผู้เชี่ยวชาญ และมีเครือข่ายเข้าถึงความรู้ เทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก เราพร้อมที่จะสนับสนุนในการร่วมยกระดับกลุ่มธุรกิจ SMEs และกลุ่ม Startups โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำโปรแกรมบ่มเพาะที่ได้รวบรวมความรู้ที่จำเป็น และจัดทำเป็นหลักสูตรเฉพาะให้กับ SMEs และ Startups โดยเคพีเอ็มจี ประเทศไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยได้อย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนา SMEs และ Startups ให้เติบโดอย่างยั่งยืนผ่านกลไกตลาดทุน และขอเชิญสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน ส.อ.ท. หมายเลข 1453 หรือสอบถามที่สถาบัน SMI โทรศัพท์ 02-345-1118, 02-345-1188, 02-345-1093

 

#SME #Starup #Live Exchange #แหล่งเงินทุน #สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย #ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย #เคพีเอ็มจี ประเทศไทย #FTI #SET #KMPG Thailand

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH