ABB และ Kawasaki Heavy Industries ผู้ผลิตระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ชั้นนำระดับโลกได้ร่วมมือกันจัดแสดงอินเตอร์เฟซที่สามารถใช้งานร่วมกันได้สำหรับ Collaborative robots นั่นคือ YuMI® จาก ABB และ duAro dua จาก Kawasaki ในงาน Automatica 2018 ที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายน ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี 

ด้วย Collaborative robots ที่ใช้งานง่ายกว่า จึงทำให้ความต้องการ Collaborative robots สูงจนแซงหน้าตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งความจริงที่ว่า Collaborative robot สามารถตั้งโปรแกรมและใช้งานโดยผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมหรือไม่มีความชำนาญเฉพาะทางได้ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ข้ามผ่านอุปสรรคในการเรียนรู้เพื่อใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมได้

Collaborative robots หรือ cobots (โคบอท) สามารถดำเนินการได้โดยผู้ใช้ทั่วไป ซึ่งจะช่วยชดเชยปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ และมีความยืดหยุ่นในการติดตั้งที่สามารถติดตั้งได้เกือบทุกพื้นที่ในโรงงาน โดยไม่มีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

Peri Vegard Nerseth กรรมการผู้จัดการ Robotics for ABB กล่าวว่า “ระบบปฏิบัติการอินเตอร์เฟซอันเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมนั้น จะช่วยเร่งการเติบโตอย่างรวดเร็วให้แก่ Collaborative robots และยังทำให้ผู้ผลิตรายใหม่ ๆ มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับขยายสายการผลิตได้"
 
อินเตอร์เฟซของ Collaborative robots ในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความร่วมมือกันระหว่าง ABB และ Kawasaki เมื่อพฤศจิกายน 2017 โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และเผยแพร่คุณประโยชน์ของ Collaborative Automation โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับคนแบบแขนคู่ หรือ dual-arm collaborative robots ที่มีอินเตอร์เฟซระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์ให้ใช้งานง่าย ด้วยไอคอนและการเข้าถึงคำสั่งต่าง ๆ ในรูปแบบเดียวกันกับการใช้งานสมาร์ทโฟน
 
Yasuhiko Hashimoto ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธาน Precision Machines and Robot company, Kawasaki Heavy Industries, Ltd. กล่าว "เราภูมิใจที่ก้าวแรกอันยิ่งใหญ่นี้ได้ร่วมทำพร้อมกับ ABB ซึ่งเป็นจังหวะเหมาะสมที่เราจะก้าวสู่ยุคใหมของระบบทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์ Collaborative robots จะมีบทบาทอย่างมากที่จะทำให้การผลิตมีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้โรงงานมีประสิทธิผลได้ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของการขาดแคลนแรงงาน"
 
นอกจากนี้ การพัฒนาระบบปฏิบัติการอินเตอร์เฟชจะยังดำเนินต่อ โดยจะมุ่งเน้นในด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม อาทิเช่น มาตรฐานความปลอดภัยทั่วไป โดยมาตรฐานความปลอดภัยอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมนั้นอ้างอิงมาจากการปฏิบัติงานจริงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งมีพารามิเตอร์ที่เฉพาะเจาะจงมาก แต่เป้าหมายของการทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัตินั้น จะต้องพัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยของคนงาน เปิดกว้างในวิธีการทำงานใหม่ ๆ ที่จะสามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่ทำให้ความสามารถในการทำงานของ Collaborative robots ลดลงหรือถูกจำกัด

การพัฒนานี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างสองค่ายหุ่นยนต์ในปี 2017 เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และกระตุ้นการรับรู้ในวงกว้างแกี่ยวกับประโยชน์และโอกาสในการใช้โคบอท (Cobots) นอกจากนี้ อินเตอร์เฟซสำหรับการใช้งานทั่วไป จะก่อให้เกิดความก้าวหน้าในการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยในรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นมาได้