แนวคิด “Super Cycle” เป็นแนวคิดเกี่ยวกับความต้องการเซมิคอนดัคเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และกำลังเป็นที่ถูกกล่าวถึงมากขึ้นในขณะนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการคาดการณ์ว่าความต้องการดังกล่าวจะไปถึงจุดสูงสุดในช่วงโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2020 และจะตกลงมาอย่างรวดเร็วตามวัฏจักร “Silicon Cycle” อย่างไรก็ตาม ด้วยนวัตกรรมยุคใหม่ อย่าง IoT ทำให้ความต้องการอุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์และวัสดุอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้หลายบริษัทเล็งหาแนวทางเสริมกำลังผลิตของตน ซึ่งหนึ่งในบริษัทเหล่านั้นคือ Tokyo Electron

ทำลายสถิติยอดขายสูงสุด

จากการสำรวจโดย SEMI สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์นานาชาติ ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ยอดขายอุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลกในปี 2017 มีมูลค่าถึง 5.66 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือเทียบเท่า 6 ล้านล้านเยน) สูงขึ้นจากปี 2016 เป็นจำนวน 37% เป็นการสร้างสถิติใหม่ในรอบ 17 ปี

Mr. Toshiki Kawai CEO บริษัท Tokyo Electron ผู้นำด้านเซมิคอนดัคเตอร์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีโรงงานผลิตอยู่ในหลายจังหวัด เช่น ยามานาชิ มิยากิ และอื่น ๆ ได้วิเคราะห์อุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ Super Cycle ว่า ตลาดที่จะมีการเติบโตเป็นอย่างมากคือ Deposition Equipment และ Etching Equipment สำหรับงานเวเฟอร์

โดยในส่วนของการผลิต Deposition Equipment นั้น ได้มอบหมายให้ Tokyo Electron Technology Solutions บริษัทลูกซึ่งเกิดจากกการรวมธุรกิจของ Tokyo Electron Yamanashi และ Tokyo Electron Tohoku เมื่อปี 2017 เป็นผู้รับผิดชอบ

และด้วยความต้องการที่มากขึ้นนี้เอง ทำให้นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางบริษัทได้เพิ่มอัตราการผลิต Single Wafer Processing Equipment ให้สูงขึ้น จากแต่เดิมผลิตที่ยามานาชิที่เดียว กลายเป็น 2 ที่โดยมีอิวาเตะเพิ่มขึ้นมา

อีกด้านหนึ่ง Tokyo Electron Miyagi ซึ่งรับผิดชอบการผลิต Etching Equipment นั้น ได้มีการลงทุนเพิ่มราว 1 หมื่นล้านเยน สร้างอาคารใหม่สำหรับใช้วิจัยและพัฒนาอุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์โดยเฉพาะ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้

การเพิ่มกำลังการผลิต

ปัจจุบัน Tokyo Electron Miyagi อยู่ระหว่างการเสริมกำลังการผลิตของตน โดยมีแผนติดตั้งหุ่นยนต์และรถลำเลียงสินค้าอัตโนมัติเพิ่มเป็นจำนวนมากในเดือนมิถุนายน ย้ายชิ้นส่วนซึ่งแต่เดิมเก็บไว้นอกไซต์การผลิตไปไว้กับอาคารใหม่ที่สร้างเสร็จแล้วในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเพิ่มจำนวนไลน์ผลิต เพื่อยกระดับอัตราการผลิตให้มากขึ้นจากเดิมเป็น 2 เท่า

อย่างไรก็ตาม อีกปัญหาที่สำคัญคือการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ ซึ่งรายงานจาก SEMI เมื่อเดือนมกราคมเปิดเผยว่า ในอุตสาหกรรมนี้ มีการขาดแคลนคนงานทั่วโลกรวมแล้วมากกว่าหมื่นคนด้วยกัน

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ทาง Tokyo Electron เล็งไปที่กระบวนการทำงานซึ่งมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่ดี และยกระดับความสามารถทางการผลิตให้ขึ้นไปอยู่ในระดับโลก ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการวางแผนดึงเหล่านักศึกษาทั่วญี่ปุ่นเข้ามาร่วมงานอีกด้วย

และด้วยเทคโนโลยี IoT ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกวันนี้เอง ทำให้การพัฒนาอุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเทียบเคียงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ โดย CEO Kawai กล่าวว่า Tokyo Electron นี่เอง ที่เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนไปได้อีก 10 ปี 20 ปี หรือกระทั่ง 100 ปี

อ่านต่อ

Hitachi Hi-Tech พัฒนาโมดูล Semiconductor เล็งใช้กับ 3D NAND

ผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์รุกตลาด Image Sensor สำหรับยานยนต์