อีซูซุปกป้อง “ฐานที่มั่น” ในไทย

อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 2567

อีซูซุ ประกาศติดอาวุธสู้คู่แข่ง เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถปิคอัพ (LCV) ในประเทศไทย ที่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดคิดเป็น 30-40% จนถูกเรียกว่า "รถยนต์ของประชาชน"

CEO ISUZU เผย ยอดขายปิกอัพไตรมาสแรก 2567 ไม่กระเตื้อง

Advertisement

รุกส่งเสริมการลดคาร์บอน เปิดตัวรถกระบะ EV ครั้งแรก

ญี่ปุ่น 29 มี.ค. 67 Isuzu Motors มีแผนจะพัฒนารถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของโลก และเปิดตัวในตลาดประเทศไทยในปี 2569 และพัฒนารถยนต์รุ่นไฮบริด (HV) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย รวมถึง การสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลไทยในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยเปิดตัวต้นแบบรถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกอย่าง LCV ”D-MAX” ซึ่งสามารถวิ่งได้ระยะทาง 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และจะเปิดตัวที่ประเทศนอร์เวย์ในปี 2568 ซึ่งเป็นประเทศในยุโรปที่มีกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด นอกจากนี้ ยังมีแผนจะพัฒนารุ่นพวงมาลัยขวา และจะทยอยเปิดตัวในประเทศไทย สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย

Isuzu เปิดตัว “รถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของโลก D-MAX EV” ครั้งแรกในประเทศไทย

และหากเอ่ยถึง ตลาดรถ LCV ในประเทศไทย อีซูซุถือเป็นผู้นำตลาดที่ครองส่วนแบ่งสูงสุด โดยกลยุทธ์ของบริษัทคือการทำให้ตัวเองแตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ในตลาด โดยใช้ประโยชน์จาก "แหล่งพลังงานที่เลือกได้" ผสานกับความแข็งแกร่งของแบรนด์ และความเข้าใจความต้องการของลูกค้าและสภาพภูมิศาสตร์ทางถนนเป็นอย่างดี ที่ทำให้บริษัทเติบโตในประเทศไทยมาเป็นเวลา 50 ปี และบริษัทยังมีเป้าหมายรั้งตำแหน่งผู้นำในประเทศไทยต่อไป

Isuzu ฉลองยอดผลิตทะลุ 6 ล้านคัน ตอกย้ำคุณภาพของฐานการผลิตในไทย

จับตาความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง

ท่ามกลางการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้าและผู้ผลิตจีนรายใหม่ในตลาดไทย ที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์และแข่งขันกันอย่างมากในงานมอเตอร์โชว์ 2024

อีซูซุ ในช่่วงเดือนเมษายนนี้ จะมีการมีเปิดตัวรุ่นไฮบริดใหม่ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยเครื่องยนต์ในระหว่างการสตาร์ทเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง

ขณะที่ โตโยต้า ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยของตลาด LCV เตรียมเปิดตัวแท็กซี่ไฟฟ้าทดลองวิ่งในพัทยาปลายเดือนนี้ และมีแผนวางจำหน่ายรถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกในปี 2568 ซึ่ง Noriaki Yamashita ประธานโตโยต้าประเทศไทย ได้ออกมาเผยว่า กำลังพิจารณานำเทคโนโลยีไฮบริดและเซลล์เชื้อเพลิงมาใช้กับรถกระบะด้วย

ด้านบริษัทในเครือของ Great Wall Motors (GWM) ในประเทศจีน ได้ประกาศเปิดตัวรถยนต์ LCV รุ่นไฮบริด การประกาศครั้งนี้ดึงดูดความสนใจเนื่องจากผู้ผลิตจีนกำลังเพิ่มการลงทุนในประเทศไทยเพื่อจับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EVs)

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขัน “ศุภคอน รัตนวรหะ รองประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ความน่าเชื่อถือของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในตลาด LCV แบรนด์ที่เชื่อถือได้จะประหยัดกว่าในระยะยาวเมื่อต้องคำนวณมูลค่าคงเหลือ”

นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เสนอรถยนต์ LCV “ไทรทัน” ใหม่ ซึ่งมาพร้อมโครงบันไดที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด และเครื่องยนต์ดีเซลสะอาดที่พัฒนาขึ้นใหม่ ในส่วนของอนาคต ผู้แทนจากมิตซูบิชิ กล่าวว่า “เรากำลังพิจารณาที่จะพัฒนา EV”

ลงทุน 1.3 แสนนล้านเยน เงินอุดหนุนจากรัฐบาลท้องถิ่น สร้างสายการผลิตใหม่

อีซูซุเตรียมลงทุนกว่า 1.3 แสนล้านเยน (3.2 หมื่นล้านบาท) ที่ฐานการผลิตในประเทศไทยในช่วงห้าปีนี้ เพื่อขยายสายการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ด้วยระบบไฟฟ้า นอกเหนือจากการผลิตชุดแบตเตอรี่ภายในบริษัทแล้ว บริษัทจะสร้างสายการผลิตใหม่สำหรับรถกระบะไฟฟ้าโดยเฉพาะที่โรงงานสำโรง ซึ่งจะเริ่มการผลิตในปี 2569 โดยจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลไทย 100,000 บาท/คัน ตามมาตรการ EV 3.5 และในอนาคตกำลังพิจารณาการผลิตที่โรงงานเกตเวย์ (จังหวัดฉะเชิงเทรา) โดยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตเพื่อส่งออกยุโรปจะติดตั้งแบตเตอรี่จาก LG Energy Solutions ของเกาหลีใต้ หลังจากนั้นจะพิจารณาจัดหาจากผู้ผลิตรายอื่น

Pickup truck production line at Isuzu’s Samrong factory

โดยรัฐบาลไทยได้ออกมาตรการ EV 3.5 สนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2567 ถึง 2570 เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และผลักดันไทยก้าวสู่การเป็นฐานผลิตชั้นนำของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค โดยรถกระบะไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ที่มีขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh จะได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน ตลอดระยะเวลา 4 ปี

ขณะเดียวกัน สถานีชาร์จไฟฟ้าก็ยังอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวของรถไฟฟ้า จากข้อมูลสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (EVAT) ระบุ ปัจจุบันมีสถานีชาร์จในประเทศ 1.479 แห่ง และส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเขตเมือง เนื่องจาก LCV มักใช้ในการขนส่งสินค้าไปยังตลาดผักและผลไม้ และเดินทางระยะไกลบนถนนลูกรัง จึงจำเป็นต้องมีจุดชาร์จเพิ่มเติมในพื้นที่ชานเมือง นอกจากนี้ ในด้านราคาที่สูงเมื่อเทียบกับรถเครื่องยนต์ดีเซล แม้ว่าจะมีการจูงใจจากการอุดหนุนของภาครัฐ ก็ยังเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกด้วย

จุดแข็งและกลยุทธ์ระยะกลาง-ระยะยาวของธุรกิจ LCV ในไทย

Tetsu Yamaguchi เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสของอีซูซุ และประธานบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความภาคภูมิใจต่อความสำเร็จในการสร้างตลาดรถกระบะให้ประเทศไทยไว้ว่า “เรารักษาความไว้วางใจของลูกค้าด้วยพลังของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง รถกระบะคุณภาพสูง และบริการหลังการขายครบวงจร นอกจากตลาดไทยแล้ว ยอดขายรถใหม่และมือสองของเรายังเติบโตควบคู่กันในตะวันออกกลางและทั่วโลก ขณะนี้เรามองเห็นโอกาสใหม่ในการขยายสู่ภูมิภาคที่เรียกว่าซีกโลกใต้ โดยใช้ประโยชน์จากฐานการผลิตในอินเดียและแอฟริกาใต้ เพื่อเพิ่มยอดขายทั่วโลกให้มากขึ้น นอกเหนือจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เรากำลังเตรียมทางเลือกด้านพลังงานทุกรูปแบบให้ตอบโจทย์กฎระเบียบและความต้องการที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าท่ัวโลก”

Mr. Tetsu Yamaguchi
Isuzu Senior Managing Executive Officer, President of Thailand Isuzu Motors

กลยุทธ์ในการลดการปล่อยคาร์บอน

Tetsu Yamaguchi ยังกล่าวถึงกลยุทธ์สำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอนว่า “เราต้องการส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ใช้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาดในการขาย ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี Commercial Japan Partnership (CJPT) ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างบริษัทที่มุ่งแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ กำลังทำงานร่วมกับโตโยต้า ฮิโน่มอเตอร์ส และบริษัทอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น บริษัทของเรากำลังร่วมมือกับฮอนด้าในการพัฒนารถบรรทุกหนักที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิง (FCV) ไม่ใช่ว่าทุกปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ในฐานะผู้ผลิตยานยนต์เชิงพาณิชย์ พันธกิจของเราคือการบรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ในขณะที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า”

ผลกระทบจากคู่แข่งจีน

Takashi Hata ประธานบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ระบุว่า ปัจจุบันจุดสนใจยังอยู่ที่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่รถกระบะขนาดเล็ก (LCV) จะถูกนำเสนอในอนาคต ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามบางประการ ผู้ผลิตจีนมีจุดแข็งด้านราคาที่แข่งขันได้ การอัปเดตผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็วและมีระยะทางวิ่งที่ไกล อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาลักษณะการใช้งานของรถ LCV แล้ว การผสมผสานระหว่าง LCV กับรถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมนัก บริษัทของเราให้ความสำคัญอย่างมากกับวิธีการใช้งานรถ LCV ในประเทศไทยมาโดยตลอด เราจะไม่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แยกออกจากมุมมองของลูกค้า