มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ บุกเบิกการพัฒนา “Vegebot” หุ่นยนต์เก็บเกี่ยวพืชผลการเกษตร ปัจจุบันสามารถใช้เก็บหัวผักกาดในแปลงเกษตรได้แล้ว ความสำเร็จในการพัฒนาครั้งนี้เป็นการสาธิตถึงความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะนำมาแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน รวมถึงลดภาระเกษตรกร อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการพัฒนาให้ Vegebot ทำงานได้รวดเร็วขึ้น

การเก็บหัวผักกาดเป็นงานหนักและต้องใช้เวลานาน ซึ่งหากสามารถใช้หุ่นยนต์มาทำงานนี้ได้สำเร็จ ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระเกษรตรกรได้ อย่างไรก็ตาม หัวผักกาดเป็นพืชที่บอบบางและมีความสูงไม่มากนัก ทำให้การเก็บเกี่ยวหัวผักกาดด้วยหุ่นยนต์เป็นเรื่องยากเป็นอย่างยิ่ง

ในทั่วไปแล้ว ภาคเกษตรกรรมมีการนำเครื่องจักรมาใช้เก็บเกี่ยวพืชหัวและเมล็ดข้าว ซึ่งเป็นพืชที่มีความคงทนสูง และไม่เสียหายเมื่อถูกเก็บเกี่ยวโดยเครื่องจักร อย่างไรก็ตาม พืชที่บอบบางและมีลำต้นเตี้ยอย่างหัวผักกาดนั้นเป็นความท้าทายต่อผู้พัฒนาหุ่นยนต์เป็นอย่างมาก

Simon Birrell ผู้ร่วมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ แสดงความเห็นว่า “ในเมื่อหุ่นยนต์เก็บเกี่ยวพืชที่บอบบางได้แล้ว ก็ย่อมเก็บเกี่ยวพืชชนิดอื่น ๆ ได้อีกมาก”

โดยหุ่นยนต์ชนิดนี้มีส่วนประกอบหลักสองส่วน คือ ระบบภาพและระบบเก็บเกี่ยว โดยใช้กล้องที่ติดตั้งไว้ข้างกรรไกรจับภาพพืชที่ต้องการเก็บเกี่ยวเพื่อคำนวณว่าผลผลิตพร้อมให้เก็บหรือไม่ ก่อนจะตัดผลผลิตออกมา ซึ่งการใช้กล้องจับภาพร่วมกับเทคโนโลยี Machine Learning ทำให้หุ่นยนต์สามารถแยกแยะได้ว่าต้นไหนควรเก็บเกี่ยว ต้นไหนยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ พืชผลที่มีโรคก็สามาถถูกตัดออกมาเพื่อป้องกันการระบาดของโรคไปยังต้นอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน และทดลองใช้หุ่นยนต์ในการเก็บหัวผักกาดหลายพันหัวเพื่อให้ทำงานได้อย่างแม่นยำในที่สุดโดยไม่ทำให้ผลผลิตเสียหาย

Dr. Fumiya Iida หัวหน้าทีมวิจัย แสดงความเห็นว่า แนวทางการพัฒนาเช่นนี้ มีจุดประสงค์เพื่อให้สามารถนำไปต่อยอดให้หุ่นยนต์เก็บผักผลไม้ชนิดอื่นได้โดยง่าย ซึ่งหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานได้ในทุกสภาพอากาศโดยไม่เหน็ดเหนื่อย จะสามารถทดแทนแรงงานได้เป็นอย่างดี และอยู่ระหว่างการพัฒนาให้มีความเร็วสูงขึ้นจนสามารถแข่งขันกับเกษตรกรได้ในที่สุด