CARTIVATOR เร่งพัฒนา “รถบิน” สัญชาติญี่ปุ่น ลดต้นทุนและเวลาการพัฒนา

อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 2561
  • Share :
  • 534 Reads   

องค์กรอาสาสมัคร “CARTIVATOR” ประกาศนำแนวคิด “Model-based design (MBD)” มาใช้ในการออกแบบ “รถบิน” และตั้งเป้าทดสอบบินครั้งแรกในปี 2020 เพื่อลดต้นทุนในการพัฒนา และร่นระยะเวลาที่ต้องใช้ในการพัฒนาให้สั้นลง และเสริมความปลอดภัยของรถบินให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบัน การพัฒนารถบินนั้นดำเนินอยู่ในหลายประเทศ ซึ่ง CARTIVATOR ได้ตั้งเป้าพัฒนารถบินของตนให้เสร็จสิ้นเป็นเจ้าแรกของโลก

โดย CARTIVATOR ได้เลือกซอฟต์แวร์วิเคราะห์เชิงตัวเลข “MATLAB”, ซอฟต์แวร์ซิมูเลชั่นโมเดลฟิสิกส์และสภาพแวดล้อมเสมือน “Simulink”, และซอฟต์แวร์อื่น ๆ ของ MathWorks บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำ MBD ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นซอฟต์แวร์ที่ได้รับความนิยมในค่ายรถญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง แลเเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำห้ CARTIVATOR เลือกนำมาใช้งาน

ปัจจุบัน CARTIVATOR ได้ออกแบบ System Architecture ให้สามารถทำงานได้แม้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในระบบ และได้เลือกชิ้นส่วนที่จำเป็นในการพัฒนาเอาไว้แล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้อย่างเร็วคือฤดูใบไม้ร่วงนี้

อีกเป้าหมายหนึ่งของ CARTIVATOR คือ การพัฒนารถบินให้ทันบินโชว์ในพิธีจุดไฟคบเพลิงโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ซึ่ง Mr. Kenichi Yamamoto หัวหน้าทีม R&D คำนวนว่า “หากไม่นำ MBD มาใช้ การจะพัฒนาให้ทันปี 2020 จะต้องใช้งบประมาณมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว” อีกทั้งยังส่งผลให้พัฒนาได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

รัฐบาลญี่ปุ่น ได้ตั้งเป้าเริ่มใช้งานรถบินจริงภายในช่วงปี 2020 - 2030 และมีกำหนดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนภายในปี 2018 นี้ ในอีกด้านหนึ่ง Uber บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ เองก็มีกำหนดทดสอบบิน “แท็กซี่บิน” ภายในปี 2020 และกำหนดให้บริการจริงในปี 2023 ซึ่งปัจจุบัน CARTIVATOR ได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจรายใหญ่อย่าง Toyota และ Panasonic เพื่อยกระดับเทคโนโลยีให้สามารถแข่งกับต่างชาติได้ ซึ่ง MBD เองก็เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยเร่งการเสริมความสามารถในการแข่งขันนี้ให้สูงขึ้น