Hitachi ทดลอง “ระบบจ่ายเงินด้วยนิ้วมือ” ซึ่งใช้เครื่องตรวจจับลายเส้นเลือดบนนิ้วมือ (Finger Vein Biometric Scanner) คาดหวังให้การใช้นิ้วทำธุรกรรมทางการเงินกลายเป็นที่แพร่หลาย โดยใช้เส้นเลือดบนนิ้วมือเป็นสื่อบันทึกข้อมูลทางการเงินแทนการใช้สมาร์ทโฟทและ IC การ์ด โดยจะทำการทดลองใช้กับร้านค้าในออฟฟิศ Hitachi จนถึงเดือนกันยายน และประสานความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าและร้านค้าขนาดเล็กหลังจากนั้น โดยตั้งเป้าให้กลายเป็นที่แพร่หลายในอีก 4 - 5 ปีข้างหน้านี้

โดยระบบจ่ายเงินด้วยนิ้วมือนี้ ได้ใช้เส้นเลือดบนนิ้วมือ ซึ่งเป็นไบโอเมตริกซ์ (ข้อมูลทางชีวภาพ) สำหรับยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรม และใช้เทคโนโลยี Public Biometrics Infrastructure (PBI) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน ที่ใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ในการสร้างกุญแจและแม่กุญแจเพื่อใช้ในการรักษาความปลอดภัย โดยมีจุดเด่นคือไม่มีการใช้งานข้อมูลไบโอเมตริกซ์โดยตรง แต่ใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการสร้าง “กุญแจสาธารณะ” ซึ่งจะถูกใช้คู่กันกับ “กุญแจส่วนตัว” ที่จะถูกสร้างขึ้นใหม่ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมเพื่อยืนยันตัวตน และเซิร์ฟเวอร์มีไว้สำหรับดูแลข้อมูลกุญแจสาธารณะ โดยไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลละเอียดอ่อนเอาไว้ ทำให้ลดความเสี่ยงในการจารกรรมข้อมูลได้ 

โดย Hitachi ได้ทำการทดลองใช้ “ระบบจ่ายเงินด้วยนิ้วมือแบบ PBI” ในออฟฟิศตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2017 ซึ่งในช่วงแรกจำเป็นต้องสแกนลายเส้นเลือดบนนิ้วมือควบคู่ไปกับการกรอกรหัสผ่าน แต่ในเดือนมกราคม 2018 ได้ทำการพัฒนาต่อให้จ่ายเงินได้ด้วยลายเส้นเลือดบนนิ้วมือเท่านั้น โดยผู้ใช้จะทำการลงทะเบียนด้วยเครื่องตรวจจับลายเส้นเลือดบนนิ้วมือ ซึ่งข้อมูลลายเส้นเลือดจะถูกบันทึกลงบน PBI Server เมื่อใช้ในการตรวจสอบข้อมูลทางการเงิน เช่น ยอดเงินคงเหลือ และจ่ายเงินด้วยเครื่องแสกนนิ้วที่ติดตั้งไว้คู่กับ POS (Point Of Sales) system ที่มีอยู่แล้วแต่เดิม

การทดสอบช่วงแรกนั้นมีผู้ร่วมลงทะเบียนทดสอบเป็นพนักงานบริษัท 100 คน ก่อนจะเพิ่มเป็น 2,400 คนในระยะเวลา 1 ปี โดยจะทำการทดสอบจนถึงช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ ซึ่งหลังจากเดือนกันยายน Hitachi ได้พิจารณาร่วมมือกับร้านค้าขนาดเล็ก ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ที่คนไม่นิยมพกสมาร์ทโฟท เช่น ฟิตเนสและสนามกอล์ฟ เพื่อทดสอบการใช้งานจริงต่อไป