Taiyo Yuden ดัน EV สู่การเติบโตระบบชาร์จไฟไร้สายและสินค้าที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 2560
  • Share :
  • 391 Reads   

6 กันยายน 2017 นิสสันประกาศเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ลีฟรุ่นใหม่ ชาร์จไฟครั้งละ 40 นาที และวิ่งได้ระยะทาง 400 กม. ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง มากกว่าลีฟรุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดในปี 2010 ถึงเท่าตัว อีกทั้งติดตั้งระบบการขับขี่กึ่งอัตโนมัติบนทางด่วนและระบบจอดรถอัตโนมัติ ทำให้เป็นที่คาดการณ์ว่าจะได้รับความนิยมทั้งในญี่ปุ่นและยุโรป

ในขณะเดียวกัน โตโยต้าได้ประกาศการตกลงเซ็นสัญญาร่วมพัฒนาเทคโนโลยี EV ระหว่าง 3 บริษัท ประกอบด้วยโตโยต้า มาสด้า และเดนโซ่ โดยโตโยต้าได้ทุ่มไปที่การพัฒนาแบตเตอรี่ออลโซลิตสเตต (all-solid-state battery) ตั้งเป้าลดระยะเวลาการชาร์จไฟและเพิ่มระยะทางการขับขี่

อีกด้านหนึ่ง สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง iPhone8/8Plus และ iPhoneX ก็มีฟังค์ชั่นการชาร์จไฟแบบไร้สาย ด้วยการวางลงบนแท่นชาร์จ โดยไม่จำเป็นต้องเสียบสายชาร์จอย่างสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนๆ

จึงเป็นที่คาดว่า หลังจากนี้เป็นต้นไป การพบเห็นแท่นชาร์จไฟได้ตามคาเฟ่ โรงแรม และภัตคาร จะกลายเป็นเรื่องปกติ อีกฟังค์ชั่นหนึ่งคือการวัดด้วยกล้อง ซึ่งเพียงหัน iPhone ไปยังวัตถุที่ต้องการ ก็จะสามารถวัดความยาวของวัตถุนั้น ๆ ได้

สำหรับ Taiyo Yuden ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาแท่นชาร์จไร้สายของทั้ง EV และสมาร์ทโฟน ได้ประเมินว่าตลาดอุปกรณ์ไฟฟ้าในยานยนต์จะเติบโตขึ้น 1.7 เท่า จาก 19 ล้านล้านเยนในปี 2015 เป็น 32 ล้านล้านเยนในปี 2025 ทางบริษัทจึงพัฒนาสินค้าในหมวดยานยนต์ โดยพัฒนา Condenser (ตัวเก็บประจุไฟฟ้า) และ Inductor (ตัวเก็บประจุไฟฟ้าในรูปแบบแรงแม่เหล็ก) ซึ่งสามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก ทนต่ออุณหภูมิ ความดันไฟฟ้า และการสั่นสะเทือนได้สูง

โดยทิศทางการบริหารหลังจากนี้ ทาง Taiyo Yuden มีความตั้งใจจะเพิ่มยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่นำไปติดตั้งในยานยนต์ จากเดิมที่มีสัดส่วนการขายอยู่ที่ 6% ในปี 2016 ให้เป็น 15% ในแผนระยะกลาง ด้วยปัจจัยบวกจากการเกิดขึ้นของตลาดแท่นชาร์จไร้สายของสมาร์ทโฟน ทำให้ Taiyo Yuden คาดหวังที่จะเข้าสู่ตลาดระบบชาร์จไฟและสินค้าที่เกี่ยวข้องให้มากขึ้น

นักวิเคราะห์จาก Nomura Securities ทำนายการเติบโตไว้ว่า แม้ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2017 จะได้รับผลกระทบจากการบริหารสต็อกของสินค้าเกี่ยวกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ความถี่สูง สำหรับสมาร์ทโฟนจีน แต่ทว่ายอดส่งออกในด้านเครื่องจักรอุตสาหกรรมและยานยนต์ที่ลงทุนไปจะสูงขึ้นจากปีที่แล้วและจะรักษาระดับได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมในปี 2017 ที่ 2 หมื่นล้านเยน(ทางบริษัทประเมินไว้ที่ 15,000 ล้านเยน) และจะเพิ่มขึ้นไปที่ 24,000 ล้านเยนในปี 2018 และ 27,000 ล้านเยนในปี 2019 อย่างรวดเร็ว(ตีพิมพ์วันพุธ)

Masanobu Kaitsu นักวิเคราะห์อาวุโส ผู้ช่วย และที่ปรึกษาสถาบันการเงิน Nomura Securities

จบการศึกษาจาก Yokohama City University ในปี 1975 ก่อนเข้าทำงานในสถาบันวิจัยโนมูระในปีเดียวกัน รับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายวิจัยองค์กรที่ Nomura Securities ในปี 1997 และขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐศาสตร์การเงิน และเป็นที่รู้จักผ่านการแสดงความเห็นของตนในหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ โทรทัศน์ และงานเขียนจำนวนมาก