Meidensha รวมอินเวอร์เตอร์และมอเตอร์เป็นชิ้นเดียวกัน สู่ระบบขับเคลื่อนขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เพื่อรถ EV

อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 2560
  • Share :
  • 654 Reads   

Meidensha ประกาศพัฒนาระบบขับเคลื่อนขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ด้วยการรวมอินเวอร์เตอร์และมอเตอร์อันเป็นส่วนประกอบหลักของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เข้าด้วยกัน ซึ่งเมื่อเทียบกับรถที่แยกอินเวเตอร์และมอเตอร์ออกจากกันแล้ว จะมีพื้นที่มากขึ้น 30% และน้ำหนักเบาลง 15% และไม่จำเป็นต้องเชื่อมสาย ทำให้ลดขั้นตอนการผลิตและค่าใช้จ่ายลงได้ โดยการลดขนาดและน้ำหนักของชิ้นส่วน EV นี้ เป็นสิ่งที่นำไปสู่การเพิ่มระยะขับเคลื่อน และอิสระในการออกแบบของผู้พัฒนา EV อีกด้วย

มอเตอร์และอินเวอร์เตอร์นั้น เป็นหนึ่งในส่วนประกอบการขับหลักของ EV และรถปลั๊กอินไฮบริด(PHV) ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จะแยกออกเป็นคนละส่วน และเชื่อมสายเข้าด้วยกัน การพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่รวมทั้งสองเข้าด้วยกันจึงเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ ซึ่ง Meidensha ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาครั้งนี้ ในระหว่างที่วางแผนแก้ไขโครงสร้างของอินเวอร์เตอร์ที่ได้รับผลกระทบจากความร้อนได้ง่าย และจัดวางโครงสร้างส่วนต่าง ๆ ใหม่ จึงเป็นความสำเร็จอีกก้าวของที่ทำให้ระบบขับเคลื่อนมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา

ชิ้นส่วนนี้ได้รับการพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้น เพื่อให้มอเตอร์มีกำลังขับมากกว่ารุ่นปี 2016 ถึง 1.6 เท่า ในขณะที่อินเวอร์เตอร์เองก็มีเอาต์พุตมากขึ้นถึง 2 เท่า และขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาเซมิคอนดัคเตอร์ซึ่งใช้ Silicon Carbide (SiC) เป็นแหล่งพลังงาน เพื่อนำมาติดตั้งในคอนเวอร์เตอร์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในอนาคต และมีแผนนำเสนอให้กับผู้ผลิต EV และ PHV นำไปใช้

Meidensha ได้ตั้งเป้าพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิเช่น EV โดยปัจจุบันได้ซัพพลายชิ้นส่วนมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ให้กับ EV “i-MiEV” และ PHV “Outlander PHEV” ให้กับมิตซูบิชิ

ปัจจุบัน ผู้ผลิตยานยนต์รายต่าง ๆ เน้นไปที่การพัฒนา EV เพื่อตอบสนองต่อนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหม่จากความร่วมมือของโตโยต้า มาสด้า และเด็นโซ่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นิสสันซึ่งดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์ร่วมกันกับเรโนลต์และมิตซูบิชิ และฮอนด้าที่ร่วมกับฮิตาชิก่อตั้งบริษัทสำหรับธุรกิจมอเตอร์

Meidensha อาศัยจุดแข็งของตนในด้านผลิตภัณฑ์มอเตอร์เพื่องานอุตสาหกรรมที่เชื่อถือได้ และความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า เพื่อสนับสนุนการพัฒนา EV ทั้งภายในและนอกประเทศ