ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI โต 3.2 เท่า ทะลุ 5.1 ล้านเครื่องปี 2030

ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI โต 3.2 เท่า ทะลุ 5.1 ล้านเครื่องปี 2030

อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 2568
  • Share :

คาดการณ์ตลาดผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกปี 2030: AI Server เติบโต 3.2 เท่า ไทยมีโอกาสรับการย้ายฐานการผลิต

Advertisement

28 เมษายน 2568 - Fuji Keizei บริษัทที่ปรึกษาและการตลาดจากญี่ปุ่น เปิดเผยผลสำรวจ "2025 Worldwide Electronics Market Survey" ชี้ให้เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก หลังจากที่ปัญหาสินค้าคงคลังคลี่คลายลงในปี 2024 และผู้ผลิตส่วนใหญ่เริ่มเตรียมระบบการผลิตเพื่อรับมือกับความต้องการใหม่ในอนาคต

จากการศึกษาครอบคลุมผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ 42 รายการ แบ่งเป็นอุปกรณ์ AV เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องใช้ในรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ โครงสร้างพื้นฐาน และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พบว่า 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่น่าจับตามอง ได้แก่:

1. ตลาดเซิร์ฟเวอร์ (Server)

ปี 2024 ตลาดเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกเติบโต 5.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปทรงตัว แต่ เซิร์ฟเวอร์สำหรับ AI (AI Server) เติบโตอย่างโดดเด่น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของตลาดทั้งหมดFuji คาดการณ์ว่า การลงทุนในเซิร์ฟเวอร์เพื่อการฝึกฝน AI (Training) จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2026 และตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป จะมีการลงทุนในเซิร์ฟเวอร์เพื่อการใช้งานจริง (Inference) โดยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Edge เช่น สมาร์ทโฟนและโน้ตบุ๊ก คาดว่าภายในปี 2030 AI Server จะครองตลาดมากกว่า 20%

แม้ว่าจีนยังคงเป็นฐานการผลิตหลัก แต่แบรนด์สหรัฐและผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่เริ่มกระจายการผลิตไปยังเอเชีย อเมริกาเหนือ และละตินอเมริกา เพื่อลดการพึ่งพาจีน ทั้งนี้ จากการที่สหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้าในปี 2025 อาจทำให้ฐานการผลิตย้ายจากละตินอเมริกาไปยังสหรัฐโดยตรง

 2. ตลาดสมาร์ทโฟน (Smartphones)

ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกในปี 2024 เติบโต 5.6% จากปีก่อนหน้า อานิสงส์จากรอบการเปลี่ยนเครื่องใหม่และมาตรการอุดหนุนของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดในประเทศพัฒนาแล้วเริ่มอิ่มตัว และคาดว่าจะหดตัวในปี 2030

การผลิตยังคงย้ายออกจากจีนไปยังเวียดนามและอินเดียเพื่อเลี่ยงผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐ EMS ที่ผลิตสินค้าให้ Apple เน้นเวียดนามมากกว่าอินเดีย เนื่องจากปัญหาด้านประสิทธิภาพการผลิตในอินเดีย

ภูมิภาคเอเชียยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุด โดยมีอินเดียเป็นตลาดเกิดใหม่ แม้จะมีอุปสรรคด้านรายได้ ส่วนแอฟริกาเป็นภูมิภาคเดียวที่คาดว่าจะเติบโตในระยะกลางถึงยาว

3. ตลาดแท็บเล็ตและโน้ตบุ๊ก (Tablets & Notebook PCs)

ตลาดแท็บเล็ตหดตัวอย่างรุนแรงในปี 2023 จากการสิ้นสุดของความต้องการช่วง COVID-19 แต่คาดว่าจะฟื้นตัว 2.9% ในปี 2024 อย่างไรก็ตาม ความต้องการในจีน แม้จะมีนโยบายอุดหนุน ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นตลาดได้ และคาดว่าตลาดจะแผ่วลงในปี 2025

จีนยังคงครองสัดส่วนการผลิตสูงถึง 80% ขณะที่ BYD และ Foxconn เริ่มย้ายฐานการผลิตไปเวียดนาม และมีแนวโน้มย้ายไปอินเดียในอนาคต

ตลาดโน้ตบุ๊กในปี 2024 จะเติบโต 3.5% หลังจากระบายสินค้าคงคลังจากการผลิตเกินในปี 2021 คาดว่าจะขยายตัวอีกในปี 2025 ตามรอบการเปลี่ยนเครื่องจากการสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 แต่จะชะลอลงในปี 2026–2027 และกลับมาเติบโตอีกในปี 2028 เป็นต้นไป

น่าสนใจว่า ประเทศไทย และเวียดนาม ถูกระบุว่าเป็นเป้าหมายของการขยายการผลิตโน้ตบุ๊กจากจีนในระยะสั้น ตามคำขอของผู้ผลิตพีซีจากสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไทย

สรุปภาพรวมตลาดอิเล็กทรอนิกส์โลก

ปี 2024 เป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวจากการปรับสต๊อกสินค้าคงคลังในหลายหมวดสินค้า โดยเฉพาะอุปกรณ์ AV อย่างหูฟังไร้สายและอุปกรณ์ XR เครื่องใช้ในบ้านได้รับแรงหนุนจากนโยบายรัฐของจีน ขณะที่อุปกรณ์ไอทีและสื่อสารเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อยจากการซื้อเพื่อเปลี่ยนเครื่อง ปกรณ์สำนักงานมีแนวโน้มลดลง แต่ตลาดอุปกรณ์อุตสาหกรรมเริ่มขยายตัว รถยนต์และอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถมีทิศทางดีขึ้นในปี 2025 และมอเตอร์ไซค์ยังมีความต้องการสูงในประเทศเกิดใหม่

ด้านการผลิต มีแนวโน้มชัดเจนว่าผู้ผลิตทั่วโลกกำลัง ลดการพึ่งพาจีน และขยายฐานมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ ไทยและเวียดนาม อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐดำเนินนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าในปี 2025 จริง การย้ายฐานการผลิตเข้าสู่สหรัฐฯ อาจเร่งตัวขึ้น

#AIserver #ตลาดเซิร์ฟเวอร์ #แนวโน้มเทคโนโลยี #อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ #MReportTH #IndustryNews

 

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / X / YouTube @MreportTH