ทลายกำแพงภาษาด้วยโมชั่นแคปเจอร์ 

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา TRASTA ผู้วางแผนพัฒนาและบริหารโรงแรมแห่งอนาคต ประกาศทดลองให้บริการห้องพักโรงแรมซึ่งสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในห้องพักได้ด้วยเทคโนโลยี IoT และโมชั่นแคปเจอร์ (Motion Capture) โดยเปิดให้บริการที่จังหวัดโอซาก้าในวันที่ 29 สิงหาคม และเดินหน้าพัฒนาเพิ่มเติมให้พร้อมรับแขกชาวต่างชาติได้ภายใน 1 ปี นอกจากนี้ ยังมีแผนในการพัฒนาให้แพร่หลายเพื่อให้นำไปใช้ในบ้านได้ในระยะถัดไปอีกด้วย

เทคโนโลยีโมชั่นแคปเจอร์ (Motion Capture) คือ ระบบบันทึกท่าทางการเคลื่อนไหวของมนุษย์ และนำมาเก็บไว้ในรูปแบบข้อมูลดิจิตอล โดยการอาศัยเทคโนโลยี IoT

Mr. Takao Kiji ประธานบริษัท TRASTA กล่าวถึงข้อดีในการนำเทคโนโลยีโมชั่นแคปเจอร์ว่า “Gestures (ท่าทาง) คือสิ่งที่คนเข้าใจโดยสากล” และตั้งเป้าให้เทคโนโลยีนี้เสริมสร้างความแตกต่างในการอำนวยความสะดวกให้แขกผู้เข้าพักในโรงแรม ซึ่งส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ

เทคโนโลยีโมชั่นแคปเจอร์ที่ TRASTA ใช้นั้น ได้ถูกใช้งานร่วมกับ Proximity Sensor ซึ่งทางบริษัทพัฒนาขึ้นเอง ได้เป็นระบบที่สามารถสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ด้วยการใช้ท่าทาง

ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับระบบนี้ ประกอบด้วยโทรทัศน์ หลอดไฟ ม่านบังแดด และอื่น ๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับการสั่งการผ่าน Smart Speaker ซึ่งเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นแล้ว จะมีข้อได้เปรียบคือไม่มีปัญหาทางด้านภาษา ซึ่ง Mr. Kiji กล่าวว่า “ไม่เพียงแต่ชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ผู้เข้าพักที่เป็นคนในประเทศเองก็สามารถทดลองประสบการณ์อันแปลกใหม่นี้ได้”

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่รองรับการสั่งงานด้วย Gestures ในตลาดมีอยู่น้อยมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2011 Panasonic เคยวางจำหน่ายโทรทัศน์พกพาซึ่งมีฟังก์ชั่นการสั่งงานด้วย Gestures ซึ่งสามารถเปลี่ยนช่องได้โดยไม่ต้องแตะตัวเครื่องไปแล้ว แต่เนื่องจากไม่มีความต้องการในตลาด ทำให้ไม่ได้รับความนิยมแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้จะสามารถตอบสนองความต้องการผู้เข้าพักได้หรือไม่ ซึ่งปัจจุบัน TRASTA กำลังอยู่ระหว่างพัฒนา AI มาใช้ร่วมกับระบบสั่งงานนี้อยู่ ซึ่งคาดการณ์ว่า หากมีผู้ผลิตที่ทดลองใช้เทคโนโลยีเช่นนี้มากขึ้นแล้ว อาจจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมโรงแรมก็เป็นได้