Cool To Touch ผศ.ดร.ชิราวุฒิ เพชรเย็น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ไบโอพลาสติกแพคเกจจิ้ง ต้นทุนต่ำ ย่อยสลายใน 2 เดือน “คูล ทู ทัช” โดยวิทยาศาสตร์ฯ มธ.

อัปเดตล่าสุด 4 ก.พ. 2563
  • Share :
  • 1,610 Reads   

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ได้เปิดเผยนวัตกรรมรักษ์โลก “คูล ทู ทัช” (Cool to Touch) แพคเกจจิ้งจากพลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) ต้นทุนการผลิตต่ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทนร้อนไมโครเวฟถึง 180 องศา ย่อยสลายทางชีวภาพใน 2 เดือน จึงสอดรับกับกระแสลดการใช้แพคเกจจิ้งพลาสติก และลดขั้นตอนการกำจัดขยะ โดยกระบวนการประดิษฐ์ด้วยวัตถุดิบทางการเกษตร จากพอลิแลคติคแอซิด (PLA) กับพอลิบิวทีลีนซัคซิเนต (PBS) และเส้นใยจากไม้ยูคาลิปตัส ไผ่ หรือชานอ้อย  นอกจากนี้ “คูล ทู ทัช” ยังคว้ารางวัลเหรียญทอง และรางวัลพิเศษจาก Patent Office of Cooperation Council for the Arab States of the Gulf ในเวทีประกวดนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติ (SIIF 2019) ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมาอีกด้วย  สำหรับนวัตกรรมรักษ์โลก “คูล ทู ทัช” (Cool to Touch) ได้รับการจดอนุสิทธิบัตรแล้ว และพร้อมถ่ายทอดสู่ผู้ประกอบการเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต

Bioplastic PLA, PBS, และเส้นใยจากไม้ยูคาลิปตัส ไผ่ หรือชานอ้อย

ผศ.ดร.ชิราวุฒิ เพชรเย็น อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีวัสดุและสิ่งทอ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) หรือ SCI-TU เผยว่า ปัจจุบันทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อนซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากการนำโฟมมาใช้งานหลากหลายและมีปริมาณเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็น ถ้วยกาแฟ การใส่อาหาร เพราะกระบวนการผลิตโฟมมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO 2) อีกทั้งโฟมยังไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ จึงก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเป็นอย่างมาก คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. โดยสาขาวิชาเทคโนโลยีวัสดุและสิ่งทอ จึงได้พัฒนาแพกเกจจิ้งรักษ์โลก “คูล ทู ทัช” (Cool to Touch) ซึ่งเกิดจากการผสมวัตถุดิบทางการเกษตร ระหว่าง พอลิแลคติคแอซิด (Polylactic acid: PLA) กับพอลิบิวทีลีนซัคซิเนต (Polybutylene succinate: PBS) เพื่อให้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีความเหนียวและยืดหยุ่น เหมาะกับการใช้งานเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่เครื่องดื่มร้อน และผสมเส้นใยจากไม้ยูคาลิปตัส ไผ่ หรือชานอ้อย ทำให้มีน้ำหนักเบา ขึ้นรูปได้ง่าย และความสามารถในการทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -18 ถึง 180 องศาเซลเซียส หรือนำไปอุ่นในไมโครเวฟได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค อีกทั้งยังมาพร้อมคุณสมบัติย่อยสลายได้ทางชีวภาพด้วยการฝังกลบตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี สำหรับนวัตกรรมดังกล่าว มีต้นทุนการผลิตไม่เกิน 5 บาท ซึ่งมีราคาค่อนข้างถูก อีกทั้งมีคุณสมบัติดีกว่าการใช้โฟม ซึ่งเมื่อนำไปใช้บรรจุอาหารที่ร้อนจะเกิดการเสียรูปหรือละลายได้ จนเกิดสารที่เป็นอันตรายมาจากภาชนะโฟม ทำให้เกิดสารเกิดการปนเปื้อนในอาหาร ดังนั้น “คูล ทู ทัช” (Cool to Touch) จึงนับเป็นทางเลือกใหม่แก่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารในอนาคต 

ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้น ในปี 2562 ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ใน 5 ประเทศของโลกที่มีปริมาณขยะสูงโดยเฉลี่ย 27 ล้านตันต่อปี และหนึ่งในปัญหาของขยะที่เพิ่มขึ้นมาจากการใช้แพกเกจจิ้งจากโฟม ประกอบกับธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่ ใช้แพกเกจจิ้งที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ประมาณ 560 ล้านชิ้นต่อปี 

ผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. ศูนย์รังสิต โทรศัพท์ 02-564-4440-59 ต่อ 2010