อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าไตรมาสที่ 1 ปี 2568 เหล็กลวด ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน

อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบโครเมียมนำโด่ง

อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 2568

MPI เหล็กไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม มีค่า 90.9 ทรงตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 0.0 (%YoY) แต่ขยายตัวจากไตรมาสก่อน 9.1 (%QoQ) โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

กองนโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ระบุว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมเหล็กไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการผลิตผลิตภัณฑ์เหล็ก เช่น เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน และท่อเหล็กกล้า การบริโภคในประเทศขยายตัวจากผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาว เช่น เหล็กลวด การนำเข้าขยายตัวจากผลิตภัณฑ์เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ประเภท Carbon steel เหล็กลวด และท่อเหล็กไม่มีตะเข็บ

การผลิตเหล็กและเหล็กกล้า

การผลิตไตรมาสที่ 1ปี 2568 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม มีค่า 90.9 ทรงตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.0 (%YoY)แต่ขยายตัวจากไตรมาสก่อนร้อยละ 9.1 (%QoQ) โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นการขยายตัวจากการผลิต ท่อเหล็กกล้า ขยายตัวร้อยละ 7.6 และการผลิตเหล็กทรงแบน ขยายตัวร้อยละ 5.5 ผลิตภัณฑ์ที่การผลิตขยายตัวมากที่สุด ได้แก่ เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียมขยายตัวร้อยละ 18.7 รองลงมา คือ เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน และเหล็กแผ่นเคลือบดีบุก ขยายตัวร้อยละ 12.4 และ 6.4 ตามลำดับ ส่วนการผลิตเหล็กทรงยาว หดตัวร้อยละ7.5 ผลิตภัณฑ์ที่การผลิตหดตัวมากที่สุด คือเหล็กเส้นข้ออ้อย และเหล็กลวด หดตัวร้อยละ 17.4 รองลงมา คือ ลวดเหล็ก แรงดึงสูง และเหล็กเส้นกลม หดตัวร้อยละ 6.4และ 3.0 ตามลำดับ

การบริโภคเหล็กในประเทศ

ไตรมาสที่ 1 ปี 2568 มีปริมาณ 4.3ล้านตัน ขยายตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.2(%YoY) และขยายตัวจากไตรมาสก่อนร้อยละ 10.1 (%QoQ) โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การบริโภคขยายตัวทั้งในผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาวและผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบน

โดยการบริโภคเหล็กทรงยาวขยายตัวร้อยละ15.0 จากการบริโภคเหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้าง การบริโภคเหล็กทรงแบนขยายตัวร้อยละ 5.9 จากการบริโภคเหล็กแผ่นหนารีดร้อน เหล็กแผ่นบางรีดร้อน เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม และเหล็กแผ่นเคลือบชนิดอื่น ๆ

การนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้า

ไตรมาสที่ 1 ปี 2568 มีปริมาณ 2.9 ล้านตัน ขยายตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 4.4 (%YoY) และขยายตัวจากไตรมาสก่อนร้อยละ 7.8(%QoQ) โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การนำเข้าเหล็กทรงยาว ขยายตัวร้อยละ 7.5 ผลิตภัณฑ์ที่การนำเข้าขยายตัวมากที่สุด คือเหล็กลวด ประเภท Stainless steel ขยายตัวร้อยละ 69.9 (ประเทศหลักที่ไทยนำเข้าเพิ่มขึ้น คือ จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น) รองลงมา คือ เหล็กโครงสร้าง ประเภท Carbon Steel และเหล็กเส้น ประเภท Stainless steel ขยายตัวร้อยละ 64.5 และ 49.2 ตามลำดับ เหล็กทรงแบนขยายตัวร้อยละ 3.4 ผลิตภัณฑ์ที่การนำเข้าขยายตัวมากที่สุด คือเหล็กแผ่นหนารีดร้อน ประเภท Alloy steelขยายตัวร้อยละ 438.0(ประเทศหลักที่ไทยนำเข้าเพิ่มขึ้น คือ จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น)รองลงมา คือ เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก และเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน ประเภท Stainless steel ขยายตัวร้อยละ 88.1 และ 61.6 ตามลำดับ

แนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าไตรมาสที่ 2 ปี 2568

แนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าไตรมาสที่ 2 ปี 2568 คาดการณ์การผลิตจะหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการสั่งระงับการผลิตเพื่อปรับปรุงแก้ไขในโรงงานที่มีกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์เหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐาน รวมทั้งสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมจากทุกประเทศทั่วโลก เพื่อปกป้องผู้ผลิตเหล็กในประเทศ

อ่านต่อ:

บทความยอดนิยม 10 อันดับ