ยอดขายรถยนต์ มิ.ย. 68 โต 5% หนุนโดย EV–PPV / รถกระบะลดลง

ยอดขายรถยนต์ มิ.ย. 68 โต 5% รับแรงหนุน EV–PPV / รถกระบะยังหดต่อเนื่อง

อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 2568
  • Share :

ยอดขายรถยนต์เดือนมิถุนายนโต 5.07% ได้แรงหนุนจาก BEV และ PHEV ที่เติบโตทะลุ 70% และ 150% แม้รถกระบะยังชะลอจากภาวะเศรษฐกิจ ครึ่งปีแรกตลาดรวมหดตัวเล็กน้อย แต่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน

24 กรกฎาคม 2568 - นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดขายภายในประเทศเดือนมิถุนายน 2568 ดังต่อไปนี้

ยอดขายรถยนต์ของเดือนมิถุนายน 2568

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 50,079 คัน ลดลง 4.12% จากเดือนพฤษภาคม 2568 แต่เพิ่มขึ้น 5.07% จากเดือนมิถุนายน 2567  เพราะฐานต่ำของปีที่แล้วจากยอดขายที่ลดลงตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกันจากการขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและรถ PPV เพิ่มขึ้นจากการออกรุ่นใหม่ของบางบริษัท แต่รถกระบะยังคงขายลดลง 19.9% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศยังคงอ่อนแอจากการลงทุนภาคเอกชนไตรมาสหนึ่งของปี 2568 ลดลง 0.9% จากไตรมาสหนึ่งของปีก่อน ส่งผลให้แรงงาน โดยภาคการผลิตลดลง 0.4% สาขาก่อสร้างลดลง 5.1% อำนาจซื้อของประชาชนจึงอ่อนแอ

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 32,252 คัน เท่ากับ 64.40% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 14.80% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว
    • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 12,242 คัน เท่ากับ 24.45% ของยอดขายทั้งหมด ลดลง 3.36% 
    • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV)  9,263 คัน เท่ากับ 18.50% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 72.82% 
    • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 557 คัน เท่ากับ 1.11% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 150.90%
    • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 10,190 คัน เท่ากับ 20.35% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 3.49% 
  • รถกระบะ มีจำนวน 11,153 คัน ลดลง 20.74% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว
  • รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 110 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย 
  • รถกระบะ REEV มีจำนวน 6 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
  • รถ PPV มีจำนวน 4,032 คัน เพิ่มขึ้น  55.02% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว
  • รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,353 คัน ลดลง 11.68% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว
  •  รถประเภทอื่น ๆ มีจำนวน 1,173 คัน ลดลง 13.94% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว

ยอดขายรถยนต์สะสมตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 มีทั้งสิ้น 302,694 คัน ลดลง 1.73% จากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกัน​ แยกเป็น​

  •  รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 193,683 คันเท่ากับ 63.99%  ของยอดขายทั้งหมด ลดลง 12.28% จากระยะเวลาเดียวกัน
    • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) มีจำนวน 72,512 คัน เท่ากับ 23.96% ของยอดขายทั้งหมด ลดลง 12.28% จากปีที่แล้ว
    • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 54,084 คัน เท่ากับ 17.87% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 61.41% จากปีที่แล้ว
    • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) มีจำนวน 5,004 คัน เท่ากับ 1.77% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 315.96% จากปีที่แล้ว
    • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) มีจำนวน 62,083 คัน เท่ากับ 20.51% ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ ลดลง 7.49% จากปีที่แล้ว
  • รถกระบะ มีจำนวน 73,620 คัน ลดลง 17.82% จากระยะเวลาเดียวกัน
  • รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 369 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
  • รถกระบะ REEV มีจำนวน 6 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
  • รถ PPV มีจำนวน 20,714 คัน เพิ่มขึ้น 9.85% จากระยะเวลาเดียวกัน
  • รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 7,206  คัน ลดลง 13.59% จากระยะเวลาเดียวกัน
  • รถประเภทอื่น ๆ มีจำนวน 7,096 คัน เพิ่มขึ้น 4.82% จากระยะเวลาเดียวกัน

 

#ยอดขายรถยนต์2568 #ยอดขายรถยนต์ในประเทศ #กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ #สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย #สอท #FTI

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / X / YouTube @MreportTH