ปี'66 ไทยตั้งเป้าผลิตเพิ่ม "รถยนต์ 1.95 ล้านคัน - รถจักรยานยนต์ 2.1 ล้านคัน"

อัปเดตล่าสุด 24 ม.ค. 2566

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ในปี 2566 ทางสมาชิกกลุ่มฯ ได้ประมาณการตัวเลขการผลิตรถยนต์ไว้ที่ 1,950,000 คัน และรถจักรยานยนต์ 2,100,000 คัน

Advertisement

สภาอุตสาหกรรม ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เป้าผลิตยานยนต์ไทย ปี 2566

ปัจจัยบวก

การผลิตเพื่อการส่งออก

การที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะซึ่งขนส่งสินค้าและคนเพื่อส่งออกไปทั่วโลกกว่าหนึ่งร้อยประเทศ จึงอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากจากเศรษฐกิจชะลอตัว
ประเทศจีนเปิดประเทศซึ่งอาจส่งผลให้การค้าโลกและการท่องเที่ยวเติบโตเป็นผลดีต่อการส่งออกของหลายประเทศดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทย
การขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลายลงมาก ส่งผลให้การผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น
การลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอาจมีการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าในปลายปีนี้ ก็ได้

การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยคาดว่าจะมี 27 ล้านคน เกือบ 70% ที่มี 40 ล้านคนของปี 2562
มีเงินลงทุนประมาณ 120,000 ล้านบาทจากนักลงทุนต่างชาติ
รัฐบาลยังลงทุนโครงสร้างพื้ นฐานต่อเนื่อง
หลายสำนักนักคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโตกว่า 3%
มีการเลือกตั้งทั่วประเทศ
ธนาคารแห่งประเทศไทยค่อยๆ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามบริบทเศรษฐกิจประเทศ
การใช้จ่ายภาคเอกชนยังดีอยู่จากการมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยรวมทั้งการมีงานทำจากนักลงทุนต่างชาติ
มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่

ปัจจัยลบ

การผลิตเพื่อการส่งออก

ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ช่องแคบไต้หวันและอื่นๆ
FED ยังมีเป้าหมายจะขึ้ นอัตราดอกเบี้ ยสู้กับเงินเฟ้อ
หลายสำนักระดับโลกคาดว่าเศรษฐกิจในหลายประเทศ จะชะลอตัวลงซี่งอาจจะส่งผลกระทบการส่งออกรถยนต์
FTA ไทยกับยุโรปซึ่งเป็นตลาดส่งออกยังไม่มีการลงนาม ทำให้เสียเปรียบประเทศคู่แข่ง
หลายสำนักในประเทศคาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นถึงระดับ 30 บาทต่อดอลลาห์สหรัฐ

การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน เซมิคอนดักเตอร์ในรถยนต์บางรุ่นยังมีอยู่
ปัญหาการส่งออกของประเทศไทยชะลอตัวลงอาจส่งผลต่อสินค้าเกษตรและสินค้าบางอุตสาหกรรม ซึ่งอาจส่งผลต่อการลงทุนและการจ้างงาน