Samsung Electronics รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2020 เผย ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมานี้ บริษัททำรายได้รวมประมาณ 45,433 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีความต้องการอุปกรณ์พกพาและผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์เป็นปัจจัยหลัก  อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาสแรกนี้ยังต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้า 7.6% ซึ่งเป็นช่วงเวลาซบเซาของธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค และธุรกิจจอภาพ ร่วมด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19   

รายงานจาก Samsung เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2020 ยังได้เปิดเผยผลกำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยเป็นผลจากการเพิ่มความหลากหลายของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีโมเดลใหม่อย่าง Galaxy S20 ออกสู่ตลาด และการบริหารงบโฆษณา รวมถึงความแปรผันของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินวอนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผลกำไรในไตรมาสแรกของปีนี้ได้ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าราว 574.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนรายได้จากธุรกิจหน่วยความจำในไตรมาสแรก 2020 ก็เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง ซึ่งเป็นผลจากความต้องการคอมพิวเตอร์ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ และชิป อย่างไรก็ตาม บริษัทรายงานเพิ่มเติมว่า ความต้องการคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงในจีนลดลงเช่นกัน
ส่วนธุรกิจจอภาพนั้น เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน โดยเฉพาะจอภาพขนาดใหญ่ซึ่งทำยอดลงลงเป็นอย่างมาก 

เช่นเดียวกับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ทำรายได้ลดลงเป็นอย่างมากเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด และการแข่งขันทางด้านราคา อย่างไรก็ตาม Samsung พบว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเกรดพรีเมียมทำยอดขายได้ดีขึ้น

Samsung คาดว่า ในไตรมาสที่ 2 บริษัทจะยังทำรายได้อย่างมั่นคง แต่จะน้อยกว่าในไตรมาสที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่า ธุรกิจหน่วยความจำสำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ และคอมพิวเตอร์จะเพิ่มสูงขึ้นอีกจากการปรับมาทำงานแบบ Work From Home  ในขณะที่ธุรกิจ OLED และโทรทัศน์จะซบเซาลง เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลกไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ซึ่งทางบริษัทมีแผนจะเปลี่ยนมาทำการขายผ่านช่องทางออนไลน์แทนที่ 

สำหรับครึ่งปีหลังนั้น ทางบริษัทรายงานว่ายังไม่อาจคาดการณ์แน่ชัดได้ เนื่องจากสถาณการณ์ที่ไม่แน่นอน ซึ่ง Samsung จะให้ความสำคัญกับการบริหารทรัพยากรเป็นลำดับแรก ในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีใหม่จะให้ความสำคัญถัดลงไป โดยมีแผนจะลงทุนเพิ่มในธุรกิจหน่วยความจำ และจอภาพ เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายยิ่งขึ้น ส่วนในธุรกิจสมาร์ทโฟน ทางบริษัทมีแผนเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G เกรดพรีเมียมในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาด 5G ที่ผู้เล่นยังไม่มากนัก ในขณะที่ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์จะเน้นไปที่การลดความเสียหายจากสถานการณ์โรคระบาด และเน้นทำโปรโมชัน ปรับปรุงโลจิสติกส์ทดแทนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่