SEMI สมาคมผู้ผลิตและซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก เผยรายงานสรุปตัวเลขผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ปี 2019 มียอดขายรวมทั้งปี 59,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไต้หวันขึ้นมาครองแชมป์อันดับหนึ่ง ด้วยการเติบโตของยอดขายถึง 68% ในขณะที่แชมป์เก่าอย่างเกาหลีใต้ตกไปอยู่อันดับ 3 ซึ่งสมาคมยอมรับว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คาดการณ์แนวโน้มในปี 2020 เป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม หลายปัจจัยชี้ว่า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อาจยังมีลุ้น รวมถึงความเคลื่อนไหวจากองค์กรอุตสาหกรรมชั้นนำทั่วโลกทั้งหมด 10 องค์กร ที่อาจกลายเป็นอีกปัจจัยบวกในตลาดโลกได้

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2020 SEMI สมาคมผู้ผลิตและซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก เผยรายงานสรุปตัวเลขผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ปี 2019 โดยมียอดขายรวมทั้งปี 59,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7% จากปีก่อน  อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ลดลงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เนื่องจากยอดขาย 64,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 เป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการเก็บข้อมูล

ในปี 2019 ไต้หวันมียอดขายอยู่ที่ 17,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดดถึง 68% และได้ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งสำหรับยอดขายผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์สูงสุด โดยมีบริษัท TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของไต้หวัน เป็นผู้ครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายสูงสุด ทำยอดขายในไตรมาสแรกได้ 10,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตจากปีก่อนหน้า 45.2 เป็นแรงผลักดันสำคัญ โดย Wendell Huang รองประธาน และหัวหน้าฝ่ายการเงิน TSMC รายงานว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากความต้องการคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน 5G ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในไตรมาสแรกปี 2020 อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 2 ความต้องการเหล่านี้จะชะลอตัวลงมา นอกจากนี้ บริษัทชั้นนำในไต้หวันอย่าง AUO (AU Optronics Corporation) และ Innolux (Innolux Corporation) ก็ทำยอดขายได้มากเป็นลำดับที่ 3 และ 4 จากตลาดโลก ในขณะที่ Acer และ Asus ก็เป็นแบรนด์ที่ถูกรูกจักในวงกล้างเช่นเดียวกัน

ลำดับถัดมาคือจีน ซึ่งยังคงครองอันดับ 2 ที่ยอดขาย 13,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอันดับ 3 คือเกาหลีใต้ ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 9,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 44% และเสียตำแหน่งแชมป์ให้กับไต้หวัน ส่วนอีกภูมิภาคที่มีการเติบโตโดดเด่น คืออเมริกาเหนือ ซึ่งทำยอดขายได้ที่ 8,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 40% ส่วนญี่ปุ่น ยุโรป และภูมิภาคอื่น ๆ ต่างมียอดขายต่ำลงทั้งสิ้น 

ส่วนในปี 2020 นี้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซิลิคอนเวเฟอร์ (Silicon Wafer) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักของตลาดเซมิคอนดักเตอร์นั้น รายงานระบุว่ามียอดขายลดลงนับตั้งแต่เดือนมกราคม โดย SEMI ชี้แจงว่า การคาดการณ์ตลาดเซมิคอนดักเตอร์หลังจากนี้ไปเป็นเรื่องยาก เนื่องจากโรคระบาดทำให้ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดโลกลดลง ในทางกลับกัน ธุรกิจ IT มีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังผลิตเพื่อสต็อกสินค้ารองรับความต้องการในอนาคต และชดเชยการหยุดชะงักของซัพพลายเชน ซึ่งรายงานเปิดเผยว่า ต้องสังเกตแนวโน้มนี้ในอีกระยะหนึ่ง จึงจะสามารถคาดการณ์ให้ละเอียดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากการปรับตัวกลายเป็นปัจจัยผลักให้ความต้องการเพิ่มสูงจนถึงครึ่งปีหลังได้ ก็จะกลายเป็นปัจจัยบวกให้กับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไปจนถึงอย่างน้อยสิ้นปีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นอย่างยิ่งที่ภาคธุรกิจจะเร่งฟื้นตัวกลับจากขาลงในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อคำนึงถึงปัจจัยอื่น เช่น การสต็อกสินค้าชดเชย, เทคโนโลยีหน่วยความจำที่ดีขึ้น, การเติบโตของตลาด Data Center, และการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้งานจริง ทำให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในปีนี้ มีแนวโน้มสูงที่จะยังเติบโตต่อได้

นอกจากนี้ อาจมีอีกหนึ่งปัจจัยบวกในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ สืบเนื่องจากการรวมตัวขององค์กรอุตสาหกรรมชั้นนำทั่วโลกทั้งหมด 10 องค์กร ยื่นจดหมายเปิดผนึกให้กับรัฐบาลทั่วโลก เรียกร้องให้ภาครัฐประเมินความสำคัญของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในช่วงวิกฤต เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้ในเครื่องมือแพทย์หลายชนิดมีเซมิคอนดักเตอร์เป็นส่วนประกอบ รวมถึงผลิตภัณฑ์ และโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นในการทำงานทางไกล ชั้นเรียนออนไลน์ และโทรคมนาคม จึงขอให้รัฐบาลพิจารณา และอนุญาตให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ สามารถดำเนินการผลิตต่อได้ตามปกติ ซึ่งองค์กรที่ร่วมร่างจดหมาย มีรายชื่อดังนี้

1. American Malaysian Chamber of Commerce (AmCham Malaysia)
2. Semiconductor Industry Association in China (CSIA)
3. Semiconductor Industry Association in EU (ESIA)
4. Semiconductor Industry Association in Japan (JSIA)
5. Semiconductor Industry Association in Korea (KSIA)
6. Semiconductor & Electronics Industries in the Philippines, Inc. (SEIPI)
7. SEMI Global Industry Association
8. Semiconductor Industry Association in U.S. (SIA)
9. Singapore Semiconductor Industry Association (SSIA)
10. Semiconductor Industry Association in Chinese Taipei (TSIA)