ฮอนด้า ยันอีกเสียง ตลาดจีนฟื้นตัวเร็ว ปรับตัวเลขคาดการณ์จะทำกำไรเพิ่มขึ้น

ฮอนด้า ยันอีกเสียง ตลาดจีนฟื้นตัวเร็ว ปรับตัวเลขคาดการณ์จะทำกำไรเพิ่มขึ้น

อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 2563
  • Share :
  • 410 Reads   

ฮอนด้า (Honda) เผยความต้องการยานยนต์จีนฟื้นตัวดีกว่าที่คิด คาดปีงบประมาณ 2020 จะทำกำไรจากการดำเนินงาน 420,000 ล้านเยน หรือราว 4,034 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ฉบับก่อนหน้าถึง 200,000 ล้านเยน 

เมื่อวันที่ 6 พฤษจิกายน ที่ผ่านมา ฮอนด้ารายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2020 ทำรายได้ 3,651,300 ล้านเยน หรือราว 35,172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว 2.1% ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานสวนทางเพิ่มขึ้น 28.5% เป็นจำนวนเงิน 282,900 ล้านเยน หรือราว 2,725 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากการลดค่าใช้จ่ายด้านการขาย การบริการ และต้นทุนการผลิตต่อคัน จึงมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจแม้ยอดขายยานยนต์ลดลง แต่ประสบความสำเร็จในการทำกำไรในช่วงวิกฤตโควิด

ฮอนด้ารายงานว่า บริษัทมีการฟื้นตัวของยอดขายยานยนต์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยธุรกิจยานยนต์มีรายได้ 2,467,000 ล้านเยน ลดลงจากปีก่อนหน้า 63,700 ล้านเยน และกำไรจากการดำเนินงาน 125,300 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 50,400 ล้านเยน โดยรุ่นที่สามารถทำยอดขายได้ดีคือ CR-V และ Civic ในตลาดสหรัฐอเมริกา, Vezel, XR-V, Civic Hatchback, Fit, และ Envix HEV ในจีน, และ N-BOX ซีรี่ย์ในญี่ปุ่น

ในส่วนของธุรกิจจักรยานยนต์ทำยอดขายได้ 493,000 ล้านเยน ลดลง 29,400 ล้านเยน และกำไรจากการดำเนินงาน 68,400 ล้านเยน ลดลง 9,300 ล้านเยน ซึ่งเป็นผลจากการหดตัวของตลาดจักรยานยนต์ในสหรัฐ และจีน ส่วนเอเชียที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุด พบว่ามาตรการเงินกู้ของอินโดนีเซียซึ่งอนุมัติเงินกู้ยากขึ้นจากการระบาดของโควิด ทำให้ยอดขายจักรยานยนต์ลดลงเกือบครึ่ง สำหรับประเทศไทยนั้น ฮอนด้าสามารถทำยอดขายจักรยานยนต์ได้ 434,000 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 35.1%

ส่วนธุรกิจอื่น เช่น อากาศยาน เครื่องยนต์อเนกประสงค์ ปั๊มน้ำ พบว่ามีความต้องการผลิตภัณฑ์ลดลงอย่างมากในไตรมาสที่ผ่านมา 

โดยฮอนด้าเปิดเผยถึงความต้องการยานยนต์ในจีนนั้นฟื้นตัวรวดเร็วกว่าการคาดการณ์นับตั้งแต่เดือนเมษายน ฮอนด้าจึงตัดสินใจเปิดตัวยานยนต์รุ่นใหม่ในจีน พร้อมเพิ่มกำลังผลิตและซัพพลายสินค้าเพื่อมุ่งทำกำไรในภูมิภาคนี้ ตรงกันข้ามกับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมีการหดตัวลงอีกจากรายงานการระบาดครั้งใหม่ในช่วงกลางเดือนกันยายน ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเองยังมีความไม่แน่นอน ทำให้มีการปรับแก้ตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการของปีงบประมาณ 2020 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2021) โดยคาดว่า บริษัทฯ จะทำรายได้ 13.05 ล้านล้านเยน หรือราว 125,345 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีที่แล้ว 12.6% และกำไรจากการดำเนินงาน 420,000 ล้านเยน หรือราว 4,034 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 33.7% ผลจากปัจจัยด้านยอดขายและภาษีเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์ชุดใหม่นี้ได้สะท้อนการประเมินสถานการณ์ที่ดีขึ้น เห็นได้จากตัวเลขผลกำไรที่ปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนซึ่งเพิ่มขึ้นราวเท่าตัว หรือ 200,000 ล้านเยน