จับตา “คลาวด์” ขึ้นแซง “ไอที” สำเร็จเป็นครั้งแรกในไตรมาส 2 ปีนี้

จับตา “คลาวด์” ขึ้นแซง “ไอที” สำเร็จเป็นครั้งแรกในไตรมาส 2 ปีนี้

อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 2563
  • Share :
  • 515 Reads   

การระบาดของโควิดทั่วโลกทำให้มีการใช้งานบนช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น และส่งเสริมให้เกิดการลงทุนระบบคลาวด์รวม 14,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 47.8% ในไตรมาสที่ 2 ขณะที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ระบบคลาวด์มีมูลค่า 19,013 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 34.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ระบบคลาวด์ขึ้นแท่นแซงระบบ IT ทั่วไปได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2020 International Data Corporation (IDC) รายงานว่า ในไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบคลาวด์ (Cloud Environments) ปิดที่ 19,013 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2019 ถึง 34.4% ในขณะที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ IT ทั่วไปลดลง 8.7% จากช่วงเวลาเดียวกัน ส่งผลให้มูลค่าผลิตภัณฑ์ระบบคลาวด์แซงหน้า IT ทั่วไปได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

โดยแนวโน้มการเติบโตนี้ เป็นผลจากการระบาดของโควิดทั่วโลกทำให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ การทำงาน และการศึกษา ซึ่งมีหลายกิจกรรมที่เปลี่ยนมาใช้งานผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร, การจัดอีเวนต์ออนไลน์, สื่อบันเทิง, E-commerce, เครื่องมือแพทย์ทางไกล, และการศึกษา ล้วนแต่จำเป็นต้องใช้ระบบคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Public Cloud ซึ่งเป็นเครื่องมือหลัก ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 2 มีการลงทุนคลาวด์รวม 14,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 47.8% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการลงทุน Public Cloud ถึง 64.1% ในขณะที่การลงทุนระบบ IT ทั่วไปมีมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7% 

จากตัวเลขดังกล่าว ประเทศที่มีการเติบโตด้านลงทุนระบบคลาวด์สูงสุดคือจีน โดยมีการลงทุนเพิ่มขึ้น 60.5% จากปีก่อนหน้า ตามด้วยสหรัฐอเมริกาที่ 36.9% ในขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ เองก็มีการลงทุนระบบคลาวด์สูงกว่าระบบ IT ทั่วไปแทบทั้งสิ้น ยกเว้นเพียงยุโรปตอนกลาง ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

IDC เชื่อว่า ตลาดโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ได้มาถึงจุดเปลี่ยนจากการระบาดของโควิด และคลาวด์จะมีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่า ที่สิ้นปี 2020 การลงทุนระบบคลาวด์จะยังคงนำหน้าระบบ IT ทั่วไป ในสัดส่วน 54.8% ต่อ 45.2% 

โดยในปี 2019 ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ระบบคลาวด์สามารถแซงหน้าระบบ IT ทั่วไปได้สำเร็จในหมวดผลิตภัณฑ์ระบบประมวลผล และอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณสื่อสารผ่านระบบ Ethernet ในขณะที่อุปกรณ์บันทึกข้อมูล และหน่วยความจำยังทำยอดขายได้ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าหน่วยความจำจะสามารถเติบโตขึ้นมามีส่วนแบ่งเป็นลำดับที่ 2 ของผลิตภัณฑ์ระบบคลาวด์ได้ในปีนี้

ส่วนในภาคผู้ผลิตนั้นมีผลลัพธ์ที่ต่างกันไปในแต่ละราย โดยในไตรมาสที่ 2 Dell มียอดขายผลิตภัณฑ์ระบบคลาวด์สูงสุดเป็นอันดับ 1 แต่มีการเติบโตเพียง 7.5% ตามด้วย Hewlett Packard Enterprise ที่มีการเติบโต 12.0% ในขณะที่ Inspur มีการเติบโตถึง 136% จนขึ้นมาเป็นอันดับ 3