ทะลุ 4 ล้านตัว! หุ่นยนต์บุกโรงงานทั่วโลก

อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 2567

รายงาน World Robotics ฉบับใหม่บันทึกจำนวนหุ่นยนต์ที่ใช้ในโรงงานทั่วโลก เพิ่มขึ้น 10% มาอยู่ที่ 4.3 ล้านตัว โดยการติดตั้งในปี 2566 สูงเกินครึ่งล้านตัวเป็นปีที่สามติดต่อกัน และ 70% ของหุ่นยนต์ที่ติดตั้งใหม่ทั้งหมดอยู่ในภูมิภาคเอเชีย รองลงมาคือ 17% ในยุโรป 17% และ 10% ในอมเริกา

Advertisement

แฟรงค์เฟิร์ต, 24 กันยายน 2567 - International Federation of Robotics (IFR) เผยแพร่รายงาน World Robotics 2024 โดย Marina Bill ประธานสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติกล่าว “สถิติ World Robotics ใหม่แสดงให้เห็นถึงจำนวนหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในการผลิตอัตโนมัติทั่วโลก 4,281,585 ตัว ซึ่งเป็นการติดตั้งในปี 2566 อยู่ที่ 541,302 ตัว สูงเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ เป็นรองเพียง 2% จากสถิติในปี 2565 ที่บันทึกการติดตั้งไว้ที่ 552,946 ตัว”

ภาพรวมของเอเชีย ยุโรป และอเมริกา

จีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโลก หุ่นยนต์อุตสาหกรรม 276,288 ตัวถูกติดตั้งในปี 2566 คิดเป็น 51% ของจำนวนหุ่นยนต์ใหม่ที่ถูกติดตั้งทั่วโลก ผลลัพธ์นี้สุดอันดับสองรองจากปี 2565 ที่มีจำนวน 290,144 ตัว สัดส่วนของผู้ผลิตจีนในตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2565 โดยเพิ่มขึ้นเป็น 47% ในปี 2566 ซึ่งผันผวนอยู่ที่ประมาณ 28% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สต๊อกการดำเนินงานใกล้เคียงกับระดับ 1.8 ล้านยูนิตในปี 2566 ทำให้จีนเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในโลกที่มีสต๊อกหุ่นยนต์จำนวนมากเช่นนี้ คาดว่าความต้องการหุ่นยนต์จะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ส่งผลให้ตลาดมีความเสถียรมากขึ้นภายในสิ้นปี ในระยะยาว ยังคงมีศักยภาพการเติบโตอีกมากในภาคการผลิตของจีน โดยมีศักยภาพการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 5-10% จนถึงปี 2570

ญี่ปุ่นยังคงเป็นตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก รองจากจีน การติดตั้งหุ่นยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 46,106 ตัวในปี 2566 ลดลง 9% ตามหลังสองปีที่แข็งแกร่ง โดยสูงสุดที่ 50,435 ยูนิตในปี 2565 ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอันดับสองรองจากปี 2561 อยู่ที่ 55,240 ตัว คาดว่าความต้องการหุ่นยนต์จะคงที่ในปี 2567 แต่จะฟื้นตัวในปี 2568 และปีต่อ ๆ ไปในอัตราปานกลางและสูง

ตลาดเกาหลีซึ่งเป็นมีแนวโน้มทรงตัว การติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 31,444 ตัวในปี 2566 ลดลง 1% เมื่อเทียบปีต่อปี ประเทศนี้เป็นตลาดหุ่นยนต์ที่ใหญ่ที่สุดอันดับสี่ของโลกในแง่ของการติดตั้งรายปี รองจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน

อินเดียเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชียที่เติบโตเร็วที่สุด การติดตั้งหุ่นยนต์เพิ่มขึ้น 59% เป็น 8,510 ตัวในปี 2566 ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ความต้องการจากอุตสาหกรรมยานยนต์พุ่งสูงถึง 3,551 ตัว เพิ่มขึ้น 139% ทั้งผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์มีส่วนร่วมในการเติบโตครั้งนี้

ยุโรปมีการติดตั้งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 9% เป็นสถิติใหม่ที่ 92,393 ตัว โดยรวมแล้ว 80% ของการติดตั้งในปี 2566 สามารถนำมาประกอบกับปลายทางในสหภาพยุโรป (73,534 ยูนิต เพิ่มขึ้น 2%) โครงการที่ล่าช้าได้รับการเสร็จสิ้น และ backlog ได้รับการดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2566 ความต้องการหุ่นยนต์ในภูมิภาคนี้ยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการย้ายฐานผลิตกลับมาใกล้บ้าน ในปี 2566 การเติบโตได้รับแรงขับเคลื่อนอย่างมากจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ลงทุนในประเทศผู้ผลิตยานยนต์ที่แข็งแกร่งแบบดั้งเดิม เช่น สเปน 5,053 ตัว เพิ่มขึ้น 31% และตลาดขนาดเล็ก เช่น สโลวาเกีย 2,174 ตัว เพิ่มขึ้น 48% หรือฮังการี 1,657 ตัว เพิ่มขึ้น 31%

การติดตั้งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในเยอรมนี ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปและเป็นตลาดเดียวในยุโรปที่อยู่ในอันดับห้าของโลก เพิ่มขึ้น 7% เป็น 28,355 ตัว การติดตั้งในอิตาลีซึ่งเป็ฯตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของยุโรปลดลง 9% เป็น 10,412 ตัว และในตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของยุโรป ฝรั่งเศส ลดลง 13% โดยติดตั้ง 6,386 ตัว

สำหรับสหราชอาณาจักรมีการติดตั้งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 51% เป็น 3,830 ตัวในปี 2566 การลงทุนได้รับแรงขับเคลื่อนจากการติดตั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยส่วนใหญ่สำหรับงานประกอบ
อเมริกามีการติดตั้งหุ่นยนต์เกิน 50,000 ตัวเป็นปีที่สามติดต่อกัน โดยมีการติดตั้ง 55,389 ตัวในปี 2566 ซึ่งต่ำกว่าสถิติระดับสูงสุดที่ทำได้ในปี 2565 เพียง 1%
สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค คิดเป็น 68% ของการติดตั้งในอเมริกาในปี 2566 การติดตั้งหุ่นยนต์ลดลง 5% เป็น 37,587 ตัว ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดอันดับสามรองจากปี 2565 และปี 2561 ความต้องการจากอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง 15% เป็น 12,421 ตัว สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของทศวรรษที่ผ่านมา การติดตั้งในอุตสาหกรรมโลหะและเครื่องจักรเพิ่มขึ้น 8% เป็น 4,171 ตัว การติดตั้งในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐฯ คงที่ 3,900 ตัว เพิ่มขึ้นเพียง 1%

ในแคนาดา การติดตั้งหุ่นยนต์เพิ่มขึ้น 37% เป็น 4,311 ตัว ตัวเลขการติดตั้งในแคนาดาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับวงจรการลงทุนยานยนต์ สัดส่วนของอุตสาหกรรมรถยนต์อยู่ที่ 58% ในปี 2566

ความต้องการหุ่นยนต์ในเม็กซิโกขับเคลื่อนโดยอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งคิดเป็น 70% ของตลาด มีการติดตั้ง 4,087 ตัว ลดลง 5% แสดงให้เห็นรูปแบบความต้องการแบบวัฏจักรที่รู้จักกันดีในกลุ่มลูกค้านี้ การติดตั้งทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 5,832 ยูนิตในปี 2566 ลดลง 3%

แนวโน้มการติดตั้งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมทั่วโลก

องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) คาดว่าการเติบโตทั่วโลกจะคงที่ อย่างไรก็ตาม แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงถูกมองว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สำคัญ วิกฤตการณ์ล่าสุดได้เพิ่มการตระหนักทางการเมืองเกี่ยวกับความสามารถทางด้านการผลิตภายในประเทศในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ ระบบอัตโนมัติช่วยให้ผู้ผลิตสามารถย้ายการผลิตไปยังประเทศที่พัฒนาแล้วโดยไม่ต้องแลกกับประสิทธิภาพต้นทุน

ภายในปี 2567 ภาวะเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำถึงจุดต่ำสุด คาดว่าการติดตั้งหุ่นยนต์ทั่วโลกจะคงที่ 541,000 ตัว การเติบโตจะเร่งตัวขึ้นในปี 2568 และดำเนินต่อไปในปี 2569 และ 2570 ไม่มีสัญญาณว่าแนวโน้มการเติบโตระยะยาวโดยรวมจะสิ้นสุดในอนาคตอันใกล้นี้