ทวีปเอเชีย คือตลาดโรบอทที่มีศักยภาพที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม จากรายงาน “World Robotics” ซึ่งจัดทำโดย International Federation of Robotics (IFR) เผย ในปี 2018 ยอดสั่งซื้อโรบอทจากจีน และเกาหลีใต้ลดลงเป็นอย่างมาก ในขณะที่ญี่ปุ่นมีการเติบโตสูง ส่งผลให้มีการเติบโตของตลาดเอเชียเพียง 1% ในขณะที่ทวีปยุโรปมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 14% ทำลายสถิติต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ส่วนทวีปอเมริกาเติบโต 20% โดยทำลายสถิติต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เช่นเดียวกัน

ในปี 2018 พบว่า 5 ประเทศที่มีการลงทุนโรบอทสูงสุดมีสัดส่วนคิดเป็น 74% ของการลงทุนโรบอททั่วโลก ตามลำดับต่อไปนี้

1. จีน

ประเทศจีน มีการลงทุนคิดเป็น 36% จากตลาดโลก มีการติดตั้งโรบอทกว่า 154,000 เครื่อง ลดลงจากปีก่อนหน้า 1% แต่สูงกว่ายอดรวมของยุโรป และอเมริกา โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 21% ซึ่งเป็นผลจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ นอกจากนี้ ยอดลงทุนโรบอทค่ายจีนมีการเติบโต 27% เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนหน้า ในขณะที่หุ่นยนต์จากค่ายต่างชาติเติบโตลดลง 7% 

2. ญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่น ลงทุนโรบอทคิดเป็น 21% จากทั่วโลก หรือเท่ากับ 55,000 เครื่อง ทำลายสถิติยอดลงทุนของประเทศตัวเองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง สำหรับประเทศที่มีการลงทุนในระบบอัตโนมัติสูงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2013 ที่ยังมีความต้องการโรบอทไม่ลดลง นอกจากนี้ ยอดขายโรบอทในญี่ปุ่น ยังมีสัดส่วนสูงถึง 52% ของยอดขายทั้งหมดในตลาดโลก ปี 2018 อีกด้วย 

3. สหรัฐอเมริกา

ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำลายสถิติการลงทุนโรบอทได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 และมียอดอยู่ที่ 40,300 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22% ซึ่งเป็นผลจากระบบอัตโนมัติที่แพร่หลายยิ่งขึ้นในทุกอุตสาหกรรมตั้งแต่ปี 2010  

4. เกาหลีใต้

ประเทศเกาหลีใต้ มียอดลงทุนโรบอทลดลงจากปีก่อนหน้า 5% และมียอดรวมทั้งหมดอยู่ที่ 38,000 เครื่อง เป็นผลจากความซบเซาของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ

5. เยอรมนี

ประเทศเยอรมนี มียอดลงทุนโรบอทรวมแล้วสูงที่สุดในทวีปยุโรป อยู่ที่ 27,000 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 26% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่วนประเทศที่มียอดลงทุนรองลงมาในยุโรปคืออิตาลี และฝรั่งเศสตามลำดับ