
อุตสาหกรรมไฟฟ้าไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ผลผลิตหดตัว 14.7%
การผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ระดับ 85.9 ลดลง 14.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายในประเทศปรับตัวลดลง
การผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ระดับ 85.9 ลดลง 14.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายในประเทศปรับตัวลดลง
สหรัฐฯ เก็บภาษีโซลาร์เซลล์ไทยสูงสุดถึง 972% ส่งผลกระทบหนักต่ออุตสาหกรรมส่งออกไทย หลังสหรัฐฯ มองว่าไทยเป็นฐานเลี่ยงภาษีของจีนไทยต้องเร่งหาตลาดใหม่ เช่น อินเดีย-ยุโรป เพื่อทดแทนตลาดสหรัฐฯ ที่อาจสูญเสีย
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยไตรมาส 1 ปี 2568 ขยายตัวต่อเนื่องจากการเร่งผลิตก่อนสหรัฐฯ ใช้มาตรการภาษี ขณะส่งออกเติบโต 23.4% YoY แต่แนวโน้มไตรมาส 2 อาจชะลอจากความไม่แน่นอนเ…
อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไตรมาสแรก ปี 2568 ยังชะลอตัวจากปีก่อน แม้ยอดผลิตและจำหน่ายในประเทศปรับตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยอดส่งออกและภาพรวมยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินตึงตัว.
ภาพรวมอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ไทยในไตรมาส 1 ปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวในประเทศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้การส่งออกยังชะลอตัวตามภาวะตลาดโลก การผลิตและจำหน่ายในประเทศปรับตัวดีขึ้น...
Fuji Keizai คาดตลาดเวเฟอร์ SiC ทั่วโลกแตะ 619.5 พันล้านเยนในปี 2035 เติบโต 4.3 เท่า แม้ราคาต่อหน่วยลดลงจากการแข่งขันของจีน
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตรถยนต์ไทยเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 139,186 คัน เพิ่มขึ้น 33.51% จากเดือนเมษายน 2568 เพิ่มขึ้น 10.32% จากปีที่แล้ว ผลจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV และ PHEV เพิ่มขึ้น
ยอดขายรถยนต์พฤษภาคม 2568 เพิ่มขึ้นเพียง 10.67% จากปีก่อน แม้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) โต 118.64% และ PHEV พุ่ง 234.68% ขยายตัวแรง แม้รถกระบะยังหดตัวจากภาวะเศรษฐกิจและสินเชื่อเข้มงวด
เดือนพฤษภาคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 13,935 คัน เพิ่มขึ้น 70.65% จากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว HEV เพิ่มขึ้น12.63% และรถ PHEV เพิ่มขึ้น 241.19%
ยอดส่งออกรถยนต์ไทยเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 81,071 คัน เพิ่มขึ้น 23.34% จากเดือนที่แล้ว แต่ลดลง 9.20% จากเดือนพฤษภาคม 2567 รถยนต์ HEV ยังส่งออกเพิ่มขึ้น 17.48%
การผลิตรถจักรยานยนต์ไทยในเดือนพฤษภาคม 2568 เพิ่มขึ้น 9.57% เทียบกับปีก่อน รวมทั้งสิ้น 210,349 คัน โดยเป็นรถสำเร็จรูป (CBU) 177,309 คัน และชิ้นส่วนเพื่อประกอบ (CKD) 33,040 คัน