กนอ. จับมือ แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท ตั้งนิคมอุตสาหกรรมแอลพีพี นครสวรรค์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ

กนอ. จับมือ แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท ตั้งนิคมอุตสาหกรรมแอลพีพี นครสวรรค์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ

อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 2567
  • Share :
  • 934 Reads   

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และ บริษัท แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด ลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงาน จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแอลพีพี นครสวรรค์ บนพื้นที่กว่า 673 ไร่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ คาดเปิดดำเนินการในปี 2569

10 มิถุนายน 2567 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ. ลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงานกับ บริษัท แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแอลพีพี นครสวรรค์ นับเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 69 ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. ซึ่ง บริษัท แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด ถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญของ กนอ.

“โครงการจัดตั้งนิคมแอลพีพี นครสวรรค์ เป็นโครงการสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ BIOECONOMY โดยนำความรู้ นวัตกรรม และความได้เปรียบของประเทศไทย ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ผลผลิตทางเกษตร มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้เป็นสินค้าที่ใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น การเกษตร อาหารเสริมสุขภาพ เครื่องสำอาง การแพทย์ และพลังงาน เกิดความสมดุลทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของพื้นที่และความพร้อมของบริษัท แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด เชื่อว่านิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ กนอ. พร้อมสนับสนุน ส่งเสริมการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหลักของกระทรวงอุตสาหกรรมและประเทศต่อไป” นายวีริศ กล่าว

โครงการนี้ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ กนอ. เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ด้วยงบลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคประมาณ 854.44 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศกว่า 18,216 ล้านบาท และสร้างงานกว่า 4,554 ตำแหน่ง โดยใช้ระยะเวลาการพัฒนาโครงการประมาณ 3 ปี ภายหลังได้รับการประกาศเขตนิคมอุตสาหกรรม คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2569

นิคมอุตสาหกรรมแอลพีพี นครสวรรค์ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 673 ไร่ ในตำบลโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ ภายใต้แนวคิดการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) มีพื้นที่สีเขียวและแนวกันชนเชิงนิเวศ จุดเด่นของโครงการคือการส่งเสริมการจ้างงานและกระจายการผลิตไปยังภาคกลางตอนบน และยังสอดคล้องกับนโยบาย BCG ด้วยการใช้วัตถุดิบภาคการเกษตรในท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านความเชี่ยวชาญของบริษัท แอลพีพี อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH