MG เร่งเครื่องสร้างระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้า ลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging station) 100 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ ในขณะที่ ภาครัฐฯ อย่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ตั้งเป้าสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั้งหมด 137 จุด และ 128 จุด ตามลำดับ ภายในปี พ.ศ. 2565

มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานสัมมนา New Generation of Automotive เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2020 ที่ผ่านมา ว่า นิยามของ New Generation of Automotive ในมุมของเอ็มจี ประกอบด้วย 3 ประเด็นสำคัญ คือ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบไร้คนขับ และพลังงานทางเลือก โดย SAIC Motor บริษัทแม่ของเอ็มจี ถือเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าลำดับต้น ๆ ของโลกที่พัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง 

และในปีนี้ เอ็มจีได้เดินหน้าสร้างระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องด้วยการลงทุนติดตั้งจุดชาร์จในรูปแบบ DC โดยภายในปี 2020 นี้ จะมีจุดชาร์จจำนวน 100 แห่งในโชว์รูมและศูนย์บริการเอ็มจีทั่วประเทศ และวางแผนในการขยายจุดชาร์จเพิ่มอีก 1 เท่าตัวภายในปีหน้า ส่วนแผนงานในระยะที่ 2 ในการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จให้มากขึ้น จะเลือกสถานีที่อยู่เส้นทางหลักตามทางหลวง และแผนงานในระยะที่ 3 จะเพิ่มสถานีชาร์จที่ศูนย์การค้า ออฟฟิศ หมู่บ้าน ที่พักอาศัย นอกจากนี้ ยังมีแผนนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดเข้ามาทำตลาดอีกด้วย โดยเอ็มจีมุ่งหวังให้เกิดการบูรณาการและพร้อมที่จะสนับสนุนความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สังคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยเติบโตมากขึ้น พร้อมนำเสนอให้รัฐบาลช่วยผลักดันเรื่องสิทธิพิเศษด้านภาษี หรือการลงทุน รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
 
ขณะที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มีการสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งหมด 11 แห่งและมีแผนในการทำสถานีร่วมกับบางจาก เพิ่มอีก 62 จุด แบ่งเป็นสถานีปั๊มน้ำมันบางจาก 56 จุด และส่วนพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอีก 6 จุด โดยจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของ ปี พ.ศ. 2564 และอีก 64 จุด ในระยะถัดไป ระหว่างปี พ.ศ. 2564 - พ.ศ. 2565 ทำให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั้งหมด 137 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัดรวมกรุงเทพมหานคร ภายในปี พ.ศ. 2565 

สำหรับการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ในปัจจุบันมีสถานีอัดประจุไฟฟ้า 10 จุด จำนวน 15 แท่นชาร์จ และมีแผนการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพิ่มขึ้นอีก 118 จุด รวมเป็น 128 จุด ภายในปี พ.ศ. 2565 พร้อมทั้งพัฒนาแอปพลิเคชันค้นหาสถานีชาร์จไฟฟ้าทั้งประเทศ และสามารถจองแท่นชาร์จก่อนเข้ารับบริการได้

อ่านต่อ:
ถอดรหัสเทคโนโลยียานยนต์ MG ขยับใกล้เทรนด์ยานยนต์โลกมากยิ่งขึ้น