356-จีน-ลงทุน-ไทย-ผลิต-รถยนต์ไฟฟ้า

จีนขยับลงทุนนอกประเทศ ไทยรับอานิสงส์ฮับ “อีวี”

อัปเดตล่าสุด 23 เม.ย. 2563
  • Share :
  • 552 Reads   

ปัจจุบันจีนมีทิศทางการส่งออกรถยนต์และเข้าไปลงทุนผลิตรถยนต์ในประเทศต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่ได้รับการตอบรับที่ดี

การรุกตลาดนอกประเทศของจีนส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ของผู้ผลิตไทยบ้างทั้งออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ดังนั้น หากไม่มีการเตรียมการรับมือด้วยการเร่งดึงดูดการลงทุนจากจีนตั้งแต่ขณะนี้เราอาจจะพลาดโอกาสสำคัญ และความน่าสนใจในการเร่งดึงดูดของไทยตอนนี้คงหนีไม่พ้นกลุ่มรถอีวี ซึ่งถือว่าจีนมีศักยภาพด้านนี้อย่างแท้จริง

ย้อนกลับไปดูความสามารถในการส่งออกของจีน ปี 2562 จีนสามารถส่งออกรถยนต์ได้ 1,024,823 คัน เพิ่มขึ้นจาก 755,500 คัน ในปี 2558 ใกล้เคียงกับตัวเลขส่งออกของไทยจำนวน 1,054,103 คัน แต่ตัวเลขนี้ประเทศไทยส่งออกเกินกว่าล้านคันมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว

ดังนั้น หากประเทศไทยยังปล่อยปละละเลย ไม่เตรียมกลยุทธ์ที่เหมาะสมไว้รับมือ อาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และพลาดโอกาสที่จะส่งออกรถยนต์ได้มากขึ้นในอนาคตด้วย โดยเฉพาะเมื่อรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนสามารถส่งออกได้เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับตลาดรวม

ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในไทยยังอยู่ในภาวะที่เพิ่งจะเริ่มต้นลงทุนได้ไม่นาน ซึ่งแม้ปัจจุบันจีนจะยังมีข้อด้อยในเรื่องความกังวลของผู้บริโภคต่อมาตรฐานรถยนต์และความปลอดภัยอยู่บ้างในบางค่าย แต่ก็มีแนวโน้มที่ค่ายรถต่าง ๆ ของจีนจะพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้ดีขึ้นตามลำดับ

ยกตัวอย่างกรณีค่ายรถยนต์สัญชาติมาเลเซียรายหนึ่งที่เมื่อถูกควบรวมกับค่ายรถยนต์สัญชาติจีน ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์นั่งในรูปชิ้นส่วน CKD จากจีนเพื่อมาประกอบในมาเลเซียสูงขึ้นมากกว่า 746.7% ในปี 2562 โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 507 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้ไทยจะส่งออกเพิ่มเช่นกันที่ 5.1% แต่มูลค่าการส่งออกก็น้อยกว่ามากเพียง 135 ล้านดอลลาร์

และในอนาคตถ้ารถยนต์นั่งส่งออกจากไทยไม่มีแรงกระตุ้นมากพอ อาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากรถยนต์นั่งสัญชาติจีนที่มีระดับราคาต่ำกว่าในมาเลเซียอย่างไม่อาจเลี่ยง

ถึงแม้ปัจจุบันไทยจะยังเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายของบางค่ายรถยนต์สัญชาติจีน โดยมีแผนเข้ามาลงทุนและพัฒนารถยนต์ในประเทศ รวมถึงวางตำแหน่งให้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ในปริมาณที่สูง ทำให้ไทยยังได้รับผลดีจากแนวนโยบายออกไปลงทุนต่างประเทศอยู่บ้างก็ตาม

ทว่า ในระยะยาวหากไทยไม่สามารถสร้างแรงดึงดูดที่มากพอให้จีนเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม ค่ายรถสัญชาติจีนก็มีโอกาสที่จะมองการขยายไปยังฐานการผลิตอื่น ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีต้นทุนการผลิตไม่สูงและมีโอกาสส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียงได้ง่าย โดยเฉพาะผ่านความตกลง FTA ต่าง ๆ แบบเดียวกับไทยได้เช่นกัน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เพื่อรุกตลาดอาเซียนและโอเชียเนีย

ขณะที่เข้าลงทุนตลาดเม็กซิโก บราซิล เพื่อบุกตลาดทวีปอเมริกา ขณะที่การลงทุนในอียิปต์สามารถเข้าบุกตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกาได้ง่าย และเข้าลงทุนในอีกหลายประเทศในยุโรปตะวันออกเพื่อส่งออกไปยังทวีปยุโรป

โดยสรุป หลังผ่านวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การกลับมาเร่งรุกตลาดของค่ายรถยนต์จีนที่เพิ่มขึ้นทั้งในมุมของการส่งออกและการไปลงทุนผลิตรถยนต์ในประเทศต่าง ๆ ต่อเนื่องจากที่ทำมาตลอดช่วงที่ผ่านมา อาจมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนภูมิทัศน์การแข่งขันในตลาดส่งออกรถยนต์ของไทยอีกระยะข้างหน้า

เมื่อรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นค่ายหลักของไทยอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดส่งออกหลักหลายแห่งของไทยจากการเข้ามาตีตลาดของรถยนต์สัญชาติจีน โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ที่จีนมุ่งพัฒนา ซึ่งหากจีนยังคงผลิตมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อสร้างอีโคโนมีออฟสเกล ถึงจุดหนึ่งที่เกินความต้องการในประเทศ ก็มีความเป็นไปได้ที่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอาจต้องส่งออกมายังตลาดต่างประเทศมากขึ้น

ดังนั้น หากต้องการลดผลกระทบจากการแผ่ขยายตลาดส่งออกรถยนต์ของจีน อาจเป็นการพิจารณาร่วมสร้างเครือข่ายพันธมิตรในการผลิตรถยนต์กับจีน โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไทยมีโอกาสจะเสียผลประโยชน์ได้

จากการที่จีนสามารถนำเข้ารถยนต์เข้ามาไทยได้โดยตรง โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าภายใต้ข้อตกลง FTA ที่ทำร่วมกันกับจีน และยังรวมไปถึงโอกาสที่จีนจะส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าโดยตรงไปยังประเทศอื่น ๆ ที่มีการทำ FTA ด้วยในลักษณะเดียวกันกับไทย

โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียนและโอเชียเนีย ส่วนการปกป้องฐานตลาดส่งออกอื่น ซึ่งก็เริ่มเห็นทิศทางของการขยายตัวของการส่งออกรถยนต์และการเข้าไปลงทุนผลิตจากจีนเช่นเดียวกันแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มทวีปยุโรป อเมริกาใต้ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ไทยอาจพิจารณาเร่งสร้างความตกลงการค้าเสรีร่วมกันกับประเทศเหล่านั้น เพื่อหาโอกาสทั้งสำหรับการดึงดูดการลงทุนเข้าไทยและการส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศต่าง ๆ มากขึ้น

ขอบคุณข้อมูล ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

อ่านต่อ:
กระทรวงอุตฯ ชี้ GWM ซื้อโรงงาน GM ดันการผลิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า-รองรับรถยนต์ไฟฟ้า