เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดโรงงานอัจฉริยะแห่งแรกอาเซียน เร่งกำลังผลิตเต็มรูปแบบ-เล็งจ้างงานเพิ่ม 1000 คน

GWM เปิดโรงงานอัจฉริยะแห่งแรกอาเซียน เร่งกำลังผลิตเต็มรูปแบบ-เล็งจ้างงานเพิ่ม 1000 คน

อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 2564
  • Share :
  • 3,867 Reads   

♦ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) เปิดโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย ถือเป็นโรงงานผลิตแบบเต็มรูปแบบแห่งที่สอง นอกประเทศจีนของ เกรท วอลล์ มอเตอร์

♦ พร้อมเดินสายการผลิตด้วยมาตรฐานระดับโลกและเทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัยภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Intelligence, Safety and Green)

♦ เฉลิมฉลองรถคันแรก All New HAVAL H6 Hybrid SUV จากสายการผลิตในประเทศ ตอกย้ำความพร้อมเพื่อส่งมอบรถยนต์คุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย โดยจะเริ่มเปิดจองสิทธิ์ลงทะเบียนเพื่อซื้อ 15 มิถุนายนนี้

วันที่ 9 มิถุนายน 2564 เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดพิธีเปิดโรงงานอัจฉริยะ ซึ่งเป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ “GWM Smart Factory for Smart xEV World” โรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานการผลิตแบบเต็มรูปแบบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สอง ของโรงงานการผลิตนอกประเทศจีน โดยมี มร. เอลเลียต จาง ประธาน มร. เกร็ก ลีรองประธานบริหาร ฝ่ายการผลิตในโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทยทีมผู้บริหารระดับสูง ร่วมด้วย มร. หวัง ลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก แขกผู้มีเกียรติจากรัฐบาล หน่วยงานจากภาครัฐ ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจ ให้เกียรติเข้าร่วมงาน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกครั้ง ตอกย้ำความเป็น “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก (Global Mobility Technology Company)” ด้วยการเปิดโรงงานอัจฉริยะ หรือ “Smart Factory” ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์เต็มรูปแบบแห่งที่ 2 ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ นอกประเทศจีนเป็นทางการ ในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC จังหวัดระยอง ภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Intelligence, Safety and Green) พร้อมเผยโฉม All New HAVAL H6 Hybrid SUV คันแรกจากสายการผลิตในประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและตอกย้ำความพร้อมในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในเร็วๆ นี้

มร. เอลเลียต จาง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เผยว่า “โรงงานที่จังหวัดระยองนี้ ถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์ในต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และเป็นโรงงานผลิตอัจฉริยะแห่งใหม่ในประเทศไทย เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมสำหรับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาดอาเซียนอย่างเป็นทางการ และภายในปลายปีนี้ เราจะสร้างอาชีพกว่า 1,000 ตำแหน่ง ในประเทศไทย และในอนาคตทรัพยากรบุคคลของเราจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป

การเปิดโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แห่งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญตามกลยุทธ์โลกภิวัฒน์ของเราในการขยายธุรกิจมาสู่ตลาดอาเซียนโดยเฉพาะตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวา โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในศักยภาพของประเทศไทย ที่มีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี องค์ความรู้ ทักษะและฝีมือของพนักงาน รวมไปถึงความร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ที่จะช่วยเติมเต็มและผลักดันให้โรงงานระยองเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย โดยโรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานอัจฉริยะที่มีมาตรฐานระดับโลกที่จะมาพลิกโฉมและสร้างมาตรฐานใหม่ เราได้นำเทคโนโลยีหลักจำนวนมากมาใช้ เช่น อุปกรณ์อัจฉริยะ ระบบข้อมูลอัจฉริยะ และนำ Big Data มาใช้เชิงอุตสาหกรรม ในกระบวนการจัดการ นอกจากนี้ เรายังได้นำเทคโนโลยีล่าสุดของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มาใช้ในด้านการผลิตอัจฉริยะ การขนส่งโลจิสติกส์อัจฉริยะ และการปฏิบัติการเชิงดิจิทัล (Digital Operation) เพื่อให้เป็นโรงงานที่มีวิธีการผลิต กระบวนการ และการจัดการอัจฉริยะอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่และการออกแบบประสบการณ์ใหม่มาสู่ผู้บริโภคชาวไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานประสบการณ์ลูกค้าให้ก้าวไปอีกขั้น พร้อมดำเนินการเปิด GWM Store และ Partner Store อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าชาวไทย ความสำเร็จต่างๆ  นี้ เป็นเพราะเราได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ และคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมไปถึงพันธมิตทางธุรกิจ และแฟนๆ ชาวไทยของเราเป็นอย่างดีเสมอมา เราขอขอบคุณและขอยืนยันความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาและรักษามาตรฐานที่ดีที่สุดของเราไว้เพื่อที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ใหม่ที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย”

โรงงานอัจฉริยะ ฐานการผลิตเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกประเทศจีนของ เกรท วอลล์ มอเตอร์

โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มอเตอร์ ประเทศไทย จัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Intelligence, Safety and Green) ตั้งอยู่ที่ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่ 412 ไร่ โดยหลังจากการเข้ามาเริ่มดำเนินงานในระยะเพียง 7 เดือน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้พัฒนาในระบบและปรับปรุงโรงงานให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ซึ่งจะมีกำลังการผลิตแบบเต็มกำลังอยู่ที่ 80,000 คันต่อปี และจะเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ของภูมิภาคอาเซียน มีสัดส่วนของการผลิตและส่งออกอยู่ที่ 60:40 ซึ่งจะเป็นการจำหน่ายภายในประเทศ 60% และเป็นการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา 40% โดยมี All New HAVAL H6 Hybrid SUV เป็นรถรุ่นแรกจากสายการผลิต

มร. เกร็ก ลี รองประธานบริหารฝ่ายการผลิตในโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดตั้งโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ที่จังหวัดระยองในประเทศไทย นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับเราที่จะได้ช่วยพัฒนาและนำเอาเทคโนโลยีด้านยานยนต์ของเรามาช่วยต่อยอดและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไกลไปอีกขั้น  อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เราได้เฟ้นหาและร่วมงานกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตนวัตกรรมและชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยเพื่อร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปกับเรา และเหนือสิ่งอื่นใดคือการที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มอัตราการจ้างงาน พัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านยานยนต์สมัยใหม่ รวมไปถึงเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้กับคนไทย เพื่อให้มีความพร้อม และสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในการผลิตและส่งมอบรถยนต์คุณภาพให้กับชาวไทย โดยนับตั้งแต่การเริ่มเข้ามาดำเนินการที่โรงงานระยองในเดือนพฤศจิกายน ในปีที่ผ่านมา เรามีการจ้างงานไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 700 ตำแหน่ง และมีแผนที่จะเพิ่มอัตราการจ้างงานขึ้นให้ครบ 1,000 ตำแหน่งภายในปลายปีนี้ ทั้งนี้ เรายังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะเฟ้นหาทั้งเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด รวมทั้งพัฒนากระบวนการทำงานที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยให้กับทั้งทีมงาน วิธีการทำงาน และการผลิตรถยนต์คุณภาพของเรา”

ภายในงาน มร. สตีเฟ่น หวัง รองประธาน ฝ่ายขายและการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย ยังได้กล่าวถึงรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ผลิตจากสายการผลิตของโรงงานระยอง โดยรถยนต์ทุกคันได้ผ่านกระบวนการผลิต การทดสอบ และการประเมิน ทั้งในด้านคุณภาพ เทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานระดับโลกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อสร้างความมั่นใจกับผู้บริโภคชาวไทย โดย HAVAL H6 Hybrid SUV ที่มาจากสายการผลิตจากโรงงานในประเทศไทย จะมาพร้อมกับแนวคิด LIFE+ คือ L : การขับขี่อัตโนมัติระดับ L2 I : ระบบอัจฉริยะ Intelligence V3.5 รองรับคำสั่งงานด้วยเสียง F : FOTA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถอัพเกรดซอฟต์แวร์ผ่านทคโนโลยีการอัปเกรดระยะไกล E : ชิปอัจฉริยะ EYEQ4 และ + (Plus) : ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ โดย All New HAVAL H6 Hybrid SUV จะเริ่มเปิดจองสิทธิลงทะเบียนเพื่อซื้อในวันที่ 15 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศราคาในวันที่ 28 มิถุนายนนี้

นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้รับเกียรติจาก มร. หวัง ลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ให้เกียรติกล่าวแสดงความยินดีและร่วมเปิดโรงงาน โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากรัฐบาล หน่วยงานจากภาครัฐ ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมพิธีและเป็นสักขีพยาน และหลังจากเสร็จสิ้นพิธีเปิดโรงงาน แขกผู้มีเกียรติได้เข้าเยี่ยมชมภายในโรงงาน ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงและทีมงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ คอยให้ข้อมูลและแนะนำเทคโนโลยีในส่วนต่างๆ ตลอดการชมโรงงาน

โดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวว่า ในนามของกระทรวงอุตสาหกรรมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ของ บริษัท เกรท วอลล์มอเตอร์ ใน จ.ระยอง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์เต็มรูปแบบในต่างประเทศ แห่งที่ 3 ของบริษัทฯ โดยมีการยกระดับระบบการผลิตให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory อันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการยกระดับอุตสาหกรรมไทยของกระทรวงอุตสาหกรรม ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในหลากหลายมิติ

ในนามของรัฐบาลไทยขอขอบคุณ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) และรถปิกอัพรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ซึ่งมีจุดแข็งในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้มีการลงทุนสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์นั่งและรถปิกอัพทั้งประเภทไฮบริด (HEV) ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลียและแอฟริกาใต้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์อันดับที่ 11 ของโลก อันดับที่ 5 ของเอเชียและอันดับ 1 ของอาเซียน รวมทั้งความเชื่อมั่นต่อนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของรัฐบาล 

ซึ่งตลอดช่วงเวลา 4-5  ปีที่ผ่านมา รัฐบาลและคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้พยายามขับเคลื่อนให้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปรับเปลี่ยนจากการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ไปสู่การเป็นฐานการผลิต ยานยนต์ไฟฟ้า ตามทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ของโลก โดยมั่นใจว่า บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้รัฐบาลสามารถบรรลุวิสัยทัศน์ เป้าหมายการผลิต และการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ในปี 2030 (หรือปี พ.ศ. 2573) ตามที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้ตั้งไว้

Smart Factory ที่เพียบพร้อมด้วยความอัจฉริยะในทุกขั้นตอน

โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก อันได้แก่

1. Press Shop
2. Body Shop
3. Paint Shop
4. General Assembly (GA) Shop

โดยแต่ละส่วนจะประกอบไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการผลิตอันล้ำสมัย ทั้งระบบ Artificial Intelligence (AI) การใช้หุ่นยนต์และระบบควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งได้รับการคิดค้นและพัฒนาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งมีกว่า 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก โดยทุกๆ กระบวนการทำงานภายในโรงงาน จะมีการควบคุมดูแล ตรวจเช็คคุณภาพ และรักษาความปลอดภัยอย่างละเอียดและเคร่งครัดจากทีมทำงานที่เปี่ยมไปด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อย่างใกล้ชิด

Press Shop จุดเริ่มต้นการสายการผลิตรถยนต์อัจริยะ

กระบวนการผลิตใน Press Shop ถือเป็นขั้นตอนแรกของการผลิตรถยนต์ มีหน้าที่หลักในการผลิตแผงตัวถังขนาดใหญ่และชิ้นส่วนโลหะที่สำคัญ โดย Press Shop ของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในปัจจุบันยังไม่ได้เปิดทำงานในส่วนนี้ แต่ในอนาคต Press Shop แห่งนี้ จะโดดเด่นด้วยการทำงานของ 2 สายการผลิต อันได้แก่ สายการผลิต JINAN ของประเทศจีน และสายการผลิต WIA ของประเทศเกาหลีใต้ ทำงานร่วมกับการใช้ หุ่นยนต์ FANUC อัจฉริยะแบบ 6 แกน นอกจากนี้ สายการผลิตยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น ระบบเปลี่ยนแม่พิมพ์อัตโนมัติ (Automatic Die Change System) และระบบตรวจสอบการผลิตอันล้ำสมัยที่จะมาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแต่ยังช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี

 

Body Shop ที่มาพร้อมระบบหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์อันล้ำสมัย

Body Shop ของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ที่เต็มไปด้วยแนวคิดการออกแบบที่ชาญฉลาดและประสิทธิภาพสูง และอัดแน่นไปด้วย

  • หุ่นยนต์อัจฉริยะกว่า 53 ตัว โดยแบ่งเป็นหุ่นยนต์ FANUC จำนวน 47 ตัว ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมตัวถังรถยนต์ซึ่งผลิตจากเหล็กคุณภาพสูงที่แข็งแรงทนทาน ทำงานร่วมกับหุ่นยนต์อีก 6 ตัว ซึ่งทำหน้าที่ในการส่งต่อชิ้นส่วนในการผลิตในแต่ละสถานี ทำให้การทำงานใน Body เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพในการประกอบมากที่สุด
  • ระบบประมวลผลภาพ MES Process Visualization ซึ่งเป็นการแสดงข้อมูลการประกอบชิ้นส่วนยานยนต์ และการสร้างตัวถังรถยนต์ (Body In White ) ในรูปแบบดิจิทัลแทนที่การใช้กระดาษ ซึ่งแผนการผลิตจะถูกส่งผ่านระบบ MES โดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความผิดพลาดต่าง ๆ เช่น การประกอบชิ้นส่วนไม่ถูกต้อง หรือมีการติดตั้งออปชั่นที่ไม่ถูกต้อง โดยระบบจะแสดงข้อมูลชิ้นส่วนยานยนต์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิตปัจจุบันเป็นรูปภาพบนหน้าจออุปกรณ์พกพา (PDA) เพื่อความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น
  • ระบบ VIN number เป็นการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI มาใช้เพื่อเพื่อบอกตำแหน่ง ความลึก ความยาว และข้อมูลต่างๆ อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการจับภาพเพื่อบ่งบอกอัตลักษณ์ของชิ้นส่วนต่างๆ การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบชิ้นส่วน ซึ่งสามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลได้จากกาประทับเลข VIN Number การบันทึกแผนการผลิตลงในระบบ MES หรือการประทับบาร์โค้ด
  • Automatic Model Switching เทคโนโลยีการสลับรุ่นแบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะของเกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยเป็นอุปกรณ์หยิบและยึดจับหลากหลายรูปแบบที่ทำให้สามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น สามารถผลิตรถยนต์ได้หลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เอสยูวีหรือรถกระบะร่วมกันได้ภายในสถานีเดียวกัน

Paint Shop สร้างสรรค์สีสันอันสวยงามผ่านอัจริยภาพแห่งเทคโนโลยี

Paint Shop ของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 39,744 ตารางเมตรโดยมีกระบวนการการทำสีที่ละเอียดอ่อนกว่า 10 ขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมพื้นผิวของตัวถังให้พร้อมสำหรับการทำสี การเคลือบกันสนิมโดยการใช้ประจุไฟฟ้าเพื่อให้สามารถเคลือบสีให้ติดบนพื้นผิวรถได้มากที่สุด ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพอีกครั้งก่อนจะส่งไปยังโรงงานประกอบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ที่ผลิตทุกคันจะมีสีสันสวยงาม คงทนดูเหมือนรถยนต์ใหม่อยู่เสมอ โดยมีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • การเคลือบสีด้วยไฟฟ้า แบบ The 8th Generation Ultra-high Penetration Electrophoretic Paint ซึ่งเป็น เทคโนโลยีการเคลือบสีขั้นสูงด้วยไฟฟ้า ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการกัดกร่อนให้กับโครงรถทั้งคันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยการเคลือบสีอิเล็กโตรโฟเรชั่นสูงสามารถป้องกันการกัดกร่อนแบบ 15 ไมครอนขึ้นไป
  • เทคโนโลยี Regenerative Thermal Oxidation ซึ่งเป็นอุปกรณ์ออกซิเดชั่นความร้อนที่เกิดใหม่ขั้นสูง
  • ที่นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดก๊าซเสียได้มากกว่า 99% ทำให้ลดการปล่อยก๊าซและสารพิษในกระบวนการพ่นสีให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
  • ระบบการพ่นสีแบบ 24-Color Robot Automatic Spraying ซึ่งเป็นระบบหุ่นยนต์พ่นสีอัจฉริยะที่ควบคุมด้วยระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สามารถควบคุมความสม่ำเสมอในการพ่นสีให้เหมือนกันในทุกๆ ครั้ง รวมไปถึงโหมดการทำงานที่สามารถเลือกเปลี่ยนสีรถยนต์แต่ละคันได้ตามที่กำหนด และใช้งานได้มากถึง 24 สี
  • นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนที่จะช่วยเติมเต็มให้การพ่นสีเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้กาวพีวีซีแบบพิเศษเพื่อช่วยป้องกันการซึมและรั่วไหลได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการ Top coating พื้นผิวด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อให้ตัวรถมีสีสันสดใสสวยงามมากยิ่งขึ้น

 

General Assembly (GA) Shop เติมเต็มความสมบูรณ์แบบของรถยนต์ด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย

GA Shop ถือเป็นกระบวนการสุดท้ายในการผลิตรถยนต์ ซึ่งเป็นขั้นตอนการประกอบรถยนต์เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ โดย GA Shop ของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 63,000 ตารางเมตร ได้รับการปรับปรุงพื้นที่และระบบใหม่ทั้งหมดด้วยวิธีการอันชาญฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อาทิ

  • ระบบ PDA Smart Scan & QA System เป็นระบบสแกนอัจฉริยะที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ ระบบจะรวมรวมข้อมูลอะไหล่ทั้งหมด 99 ชนิด โดยจะมีการสแกนข้อมูลชิ้นส่วนเพื่อบันทึกลงในระบบก่อนการเริ่มประกอบรถยนต์ผ่านแทนที่จะเป็นการบันทึกด้วยมือเพื่อป้องกันความผิดพลาด 4 ประเภทในระหว่างการผลิต ไม่ว่าจะเป็นจากการลืมสแกน การประกอบผิดพลาดการลืมประกอบ หรือการประกอบซ้ำ เป็นการลดปัญหาเรื่องความผิดพลาดในการประกอบชิ้นส่วนหลักหรือชิ้นส่วนที่คล้ายคลึงกันให้กลายเป็นศูนย์ และมีประสิทธิภาพในการติดตามชิ้นส่วนต่างๆ มากถึง 100%
  • Intelligent Chassis Line นับเป็นครั้งแรกของ Chassis Line ที่เป็นการออกแบบอย่างอัจฉริยะ โดยมีเสาสำหรับแขวนโครงรูปตัว L เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย โดยโครงแขวนนี้สามารถรองรับรูปแบบแผนการผลิตที่หลากหลาย เพื่อทำให้การทำงานมีความยืดหยุ่นและรวดเร็วขึ้น และสามารถผลิตรถยนต์ได้หลายรุ่น
  • เทคโนโลยี Dual-Life AGV ระบบเคลื่อนย้ายอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เพื่อการประกอบตัวถังที่รวดเร็วพร้อมกับระบบติดตามกระบวนการผลิตและการป้องกันการกระแทกระหว่างผลิตอันชาญฉลาด สามารถทำงานได้หลากหลายในเวลาเดียวกัน สามารถทำให้การขยายหรือปรับเปลี่ยนแผนการผลิตทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • Assembly Manipulator การใช้หุ่นยนต์ที่มีระบบการทำงานที่ชาญฉลาดและทันสมัยมาช่วยในการประกอบรถยนต์ โดยเฉพาะในส่วนที่มีความซับซ้อนอย่างการประกอบ Panoramic Sunroof มีความแม่นยำ ถูกต้อง รวดเร็วที่สุด และเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด

นอกจากนี้ใน GA Shop ยังมีการติดตั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบกล้องอัจฉริยะแบบ 360 องศา (360 Degree Smart Camera) เป็นระบบกล้องที่สามารถมองรอบทิศทางได้ 360 องศา ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวรถ โดยกล้องจะจับภาพแสดงวัตถุที่อยู่รอบๆ ตัวรถและส่งสัญญานเตือนเมื่อมีวัตถุเข้ามาในรัศมีต่างๆ ตามระยะห่าง ซึ่งใน GA workshop จะมีอุปกรณ์สำหรับการตรวจสอบตำแหน่งการติดตั้งกล้องรอบตัวรถอย่างแม่นยำ ซึ่งจะติดตั้งกล้องไว้ที่ตำแหน่งมุมมองกว้างพิเศษของด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านขวาของตัวรถ อย่างความถูกต้องและแม่นยำสูงสุด และจะมีการเชื่อมต่อไปยังหน้าจอคอนโซลเพื่อแสดงผลภาพรอบตัวรถทั้ง 4 มุมได้อย่างถูกต้อง
  • หน้าจอแสดงข้อมูลขับขี่อัจฉริยะ (HUD System) เป็นระบบประมวลภาพและข้อมูล เพื่อนำข้อมูลที่เอื้อต่อการขับขี่ เช่น สภาพถนนและความเร็ว มาปรากฏบนกระจกที่หน้าจอคนขับ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่อัตโนมัติ
  • ทั้งนี้ ในสายการผลิตรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV จะมีการใช้อุปกรณ์กึ่งอัตโนมัติที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการติดตั้งแบตเตอรี่พร้อมด้วยอุปกรณ์อันทันสมัยสำหรับทดสอบแบตเตอรี่ให้พร้อมสำหรับการใช้งาน และจะมีการตรวจคุณภาพของรถยนต์ทุกคันที่ออกมาจากสายการผลิตอย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนที่ได้มาตรฐานระดับโลกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์

 

โรงงานอัจฉริยะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง มาพร้อมแนวคิดด้านความชาญฉลาด ความปลอดภัย อีกทั้งยังตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในแง่ของการผลิตและทดสอบรถยนต์พลังงานใหม่ตามกลยุทธ์ xEV Leader ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดมลพิษที่เกิดขึ้นต่อโลก นอกจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้ปรับปรุงทัศนียภาพของโรงงานให้ร่มรื่น โอบล้อมด้วยสวนและพื้นที่สวนสาธารณะเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตร มีการบำบัดของเสียจากโรงงานควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดการจัดการขยะและของเสียตามกฏหมายสิ่งแวดล้อมของไทยในทุกแง่มุม ซึ่งสะท้อนถึงความตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงของบริษัท

การเปิดโรงงานใหม่ล่าสุดของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ประเทศไทยในวันนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในฐานะ “บริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) และยังเป็นการบันทึกอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเกรท วอลล์ มอเตอร์ แห่งประเทศไทยในการก้าวผ่านไปสู่ยุคของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ไปด้วยกัน ด้วยโรงงานอัจฉริยะที่มีกระบวนการการผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ที่มาพร้อมนวัตกรรมที่สร้างความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงยืดหยัดในการสร้างความเชื่อมั่นและพร้อมแล้วที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์และการบริการที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพให้กับผู้บริโภคชาวไทยในอนาคตอันใกล้ และมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันและยกระดับเศรษฐกิจให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนต่อไป

 

 

อ่านต่อ: