เกรท วอลล์ มอเตอร์ รายได้ ผลประกอบการ ปี 2565, 2022

GWM เผยรายได้ปี 2565 พุ่งทะลุ 1.373 แสนล้านหยวน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

อัปเดตล่าสุด 9 ก.พ. 2566

GWM เผยรายได้ปี 2565 พุ่งทะลุ 1.373 แสนล้านหยวน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมวางเป้ายอดขายต่อปีอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา Great Wall Motor Company Limited (GWM) ได้รายงานตัวเลขประมาณการผลประกอบการทางการเงินเบื้องต้นของปี 2565 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.37351 แสนล้านหยวน นับเป็นปีที่สี่ที่ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่า 1 แสนล้านหยวน ในขณะที่กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 23.09% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 8.279 พันล้านหยวน

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในปี 2565 จีเอ็มดับบลิวยังคงสามารถทำรายได้และยอดขายในต่างประเทศสูงเป็นประวัติการณ์ มีผลกำไรเติบโตอย่างมาก ตลอดจนปรับปรุงส่วนประสมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และยกระดับแบรนด์ให้เป็นแบรนด์ระดับพรีเมียม พร้อมรักษาแนวโน้มที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

ยอดขายในต่างประเทศของจีดับบลิวเอ็มทำสถิติสูงสุดที่ 173,200 คันในปี 2565 เพิ่มขึ้น 21.28% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ จีดับบลิวเอ็มจะยังคงเดินหน้าส่งเสริมการขยายตลาดทั่วโลกต่อไปผ่านการดำเนินกลยุทธ์แบรนด์ระดับโลก “วัน จีดับบลิวเอ็ม” (ONE GWM) ซึ่งประกาศไปเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา

บริษัทสามารถเพิ่มส่วนประสมผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยมในปี 2565 โดยราคาเฉลี่ยต่อคันอยู่ที่ 128,700 หยวน เพิ่มขึ้น 20.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ด้านอัตราส่วนการขายรถรุ่นที่มีราคาสูงกว่า 200,000 หยวนนั้น เพิ่มขึ้นเป็น 15.27% ขณะที่อัตราการเจาะตลาดของรถยนต์เทคโนโลยีอัจฉริยะก็สูงถึง 86.17%

ส่วนประสมผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมมาจากการทุ่มลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง จีดับบลิวเอ็มตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นเจ้าของเทคโนโลยีหลักโดยสมบูรณ์ภายใต้หลักการลงทุนเกิน (over-investment) ในด้านการวิจัยและพัฒนา และจะยังคงรวมจุดแข็งที่แท้จริงของ “เทคโนโลยี จีดับบลิวเอ็ม” (Technology GWM) ให้มั่นคงเป็นหนึ่ง เพื่อสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พร้อมพัฒนารถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่ใช้พลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะให้มากขึ้น

ในภาคพลังงานใหม่นั้น จีดับบลิวเอ็มยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า 100% รวมถึงไฮบริดและไฮโดรเจน จนนำไปสู่การอัปเกรดเทคโนโลยี DHT อัจฉริยะเป็นครั้งแรก และเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่มากกว่า 10 รุ่น เช่น ฮาวาล เอช6 พีเอชอีวี (HAVAL H6 PHEV), เวย์ คอฟฟี่ 01 (WEY Coffee 01) และโอร่า (ORA) รุ่นใหม่ นอกจากนี้ ด้วยการเร่งผลักดันเทคโนโลยีอัจฉริยะ ส่งผลให้ในปี 2565 รถยนต์ที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ คอฟฟี่ อินเทลลิเจนซ์ (Coffee Intelligence) ทำยอดขายได้เกิน 200,000 คัน และระบบคอฟฟี่ อินเทลลิเจนซ์ ทำระยะทางสะสมได้เกิน 25 ล้านกิโลเมตร

สำหรับในปี 2566 จีดับบลิวเอ็มจะให้ความสำคัญกับช่องทางหลักของตลาดรถยนต์มากขึ้น และมุ่งเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลางมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้โดยตรงด้วยการออกรถรุ่นใหม่ ๆ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ โดยคาดว่าจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่มากกว่า 10 รุ่นตลอดทั้งปี

ขณะเดียวกัน จีดับบลิวเอ็มจะเดินหน้าส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านของระบบการตลาด โดยให้ความสำคัญมากขึ้นกับทรัพยากรที่เหนือชั้น และเสริมสร้างการประสานงานเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของกลยุทธ์แบรนด์ จีดับบลิวเอ็มจะผลักดัน “วัน จีดับบลิวเอ็ม” เพื่อการปรับเปลี่ยนอย่างรอบด้าน นอกจากนี้ในปี 2566 บริษัทจะยังคงใช้เทคโนโลยีเป็นฐานเพื่อยกระดับจุดแข็งของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และกระตุ้นประสิทธิภาพของระบบด้วยนวัตกรรม เพื่อดันเป้ายอดขายต่อปีที่ 1.6 ล้านคัน