โรงงานฉางอาน ออโต้, Changan Automobile, ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จัดพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ณ นิคมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 จังหวัดระยอง

ฉางอาน ออโต้ จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า

อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 2566

ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จัดพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อก่อสร้างโรงงานสำหรับผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัทฯ ณ นิคมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 จังหวัดระยอง

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อก่อสร้างโรงงานสำหรับผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 จังหวัดระยอง โดยมีผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมด้วย อาทิ Mr. Wang Hui, Vice President of Changan Automobile Ms. Zhang Xiaoxiao, Counseller of Economic and Commercial Office, Embassy of People’s Republic of China นายสกนธ์ กรกฎ นายอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง และนายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

'ฉางอาน ออโต้' ซื้อที่ดิน WHA 250 ไร่ ตั้งโรงงานผลิต EV แสนคันต่อปี

การสร้างโรงงานของบริษัท ฉางอาน ครั้งนี้ นอกจากเป็นการตอกย้ำประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียนแล้ว ยังเป็นการแสดงถึงศักยภาพของประเทศไทยที่จะเป็นฐานรองรับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนเช่นกัน ด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า อาทิ พื้นที่สำหรับรองรับการลงทุน สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ไปจนถึงนโยบายการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งบริษัทได้เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยที่มีศักยภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากลกว่า 600 ราย มีส่วนร่วมในภาคการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัท สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจของฉางอานที่มีต่อประเทศไทยสำหรับเป็นฐานการผลิตของบริษัทในระยะยาว

การลงทุนของบริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย ในครั้งนี้ เป็นการลงทุนเพื่อตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ “ฉางอาน” (ChangAn) แห่งแรกนอกประเทศจีน โดยประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตแห่งแรกของอาเซียน โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค ด้วยการตั้งเป้าการผลิตให้ได้ 100,000 คันต่อปี และ 200,000 คัน สำหรับปีถัดไป เพื่อรองรับความต้องการของตลาดผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บทความยอดนิยม 10 อันดับ