“สถาบันยานยนต์” จับมือ เกาหลี ลงนามผ่านทางไกลฝ่าวิกฤตโควิดโลกเพื่อพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า

สถาบันยานยนต์ จับมือ เกาหลี ลงนามผ่านทางไกลฝ่าวิกฤตโควิดโลกเพื่อพัฒนายานยนต์

อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 2563
  • Share :
  • 528 Reads   

สถาบันยานยนต์ ร่วมกับ Korea Conformity Laboratories ลงนาม MOU สร้างความร่วมมือด้านการทดสอบ วิจัยพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า

เมื่อวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2563 สถาบันยานยนต์ จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ด้านการทดสอบ วิจัยพัฒนายานยนต์ และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับ Korea Conformity Laboratories (KCL) ประเทศเกาหลีใต้ ผ่านระบบ Video Conference ทางไกล เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ณ สถาบันยานยนต์ สำนักงานกล้วยน้ำไท

โดยนายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ และ Mr. KAPSEOK YOON President of Korea Conformity Laboratories (KCL) Korea Conformity Laboratories (KCL) เป็นผู้ลงนามความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการทดสอบ วิจัยพัฒนายานยนต์ และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า อาทิ ความร่วมมือสนับสนุนการจัดตั้งและดำเนินการเกี่ยวกับศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า  และจัดฝึกอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาองค์ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานในศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า และการดำเนินโครงการการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ร่วมกันระหว่างประเทศในด้านยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ฯลฯส่งเสริมห้องปฏิบัติการทดสอบในด้านแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าของไทยในเป็นที่ยอมรับ รวมถึงความร่วมมือด้านอื่นๆ ในอนาคต

KCL เป็นหน่วยงาน Technical Service ของประเทศเกาหลีใต้ ก่อตั้งในปี 2010 มีภารกิจให้บริการทดสอบ รับรองผลิตภัณฑ์ และการวิจัยพัฒนา ในสาขาต่างๆ เช่น ด้านวัสดุก่อสร้างผลิตภัณฑ์งานโยธา ด้านวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ ด้านโลจิสติกส์และสิ่งแวดล้อม เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค และส่งเสริมสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมของประเทศ ปัจจุบัน KCL มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และมีสาขาทั่วประเทศอีก 31 สาขา

นายพิสิฐ กล่าวว่า “พิธีลงนามในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายในการทำงานร่วมกัน ทั้งในด้านการทดสอบ การประเมินผลการรับรอง การวิจัยพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ (Next Generation Vehicle Technology) และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV Battery Technology) ซึ่งเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนวิถีของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน จึงต้องอาศัยองค์ความรู้ทางวิศวกรรมและทักษะทางเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์ สถาบันยานยนต์ และ KCL เห็นพ้องต้องกันในการที่แบ่งปันองค์ความรู้ประสบการณ์ด้านเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าในเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อมูลระหว่างกัน เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ร่วมกัน และเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์”

ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ยังไม่มีบทสรุปในการป้องกันและการรักษา แต่ก็มิได้ทำให้สถาบันยานยนต์หยุดเดินหน้าพัฒนาภารกิจในการสร้างเสริมศักยภาพศูนย์ทดสอบยานยนต์ รวมถึง ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย เพื่อการเป็น “สถาบันแห่งการเรียนรู้และพัฒนาด้าน Mobility ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตสู่สังคม” ต่อไปในอนาคต