CREAFORM MetraSCAN 3D รุ่นล่าสุดที่บูธ Quality Report ในงาน Manufacturing Expo 2023
Quality Report โชว์เครื่องสแกน 3 มิติแบบพกพา MetraSCAN 3D รุ่นล่าสุดจาก CREAFORM มาพร้อมความแม่นยำ 25 ไมโครเมตร ความเร็ว 1,800,000 ครั้ง/วินาที ในงาน Manufacturing Expo 2023 วันที่ 21-24 มิถุนายน ที่ผ่านมา
นายกฤติน รดีสุจริตกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ รีพอร์ท จำกัด ผู้นำตลาดเครื่องมือวัดและเครื่องมือทดสอบในโรงงานอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยถึงเทคโนโลยีด้านการวัดใหม่ล่าสุดที่ให้ความยืดหยุ่นในสภาพแวดล้อมในสายการผลิต พร้อมเผยแนวโน้มตลาดเครื่องมือวัดอุตสาหกรรมในประเทศไทย
MetraSCAN Handheld 3D Scanner - Portable Optical CMM ใหม่ล่าสุด
หนึ่งในไฮไลท์งานนี้คือ MetraSCAN 3D จาก CREAFORM เครื่องสแกน 3 มิติที่เร็วและแม่นยำที่สุด ซึ่งเป็น CMM แบบพกพาที่ช่วยให้การทำงานการวัดแบบ 3 มิติเป็นไปได้อย่างราบรื่น แม้ในสภาพแวดล้อมบน shop floor ที่ต้องเจอกับความสมบุกสมบัน
เครื่องสแกน CMM แบบออปติคัล MetraSCAN 3D มาพร้อมความสามารถรอบด้าน ให้การวัดระดับมาตรวิทยาที่มีความแม่นยำสูงและทำซ้ำได้ เช่นเดียวกับการตรวจสอบพื้นผิว 3 มิติด้วยวิศวกรรมขั้นสูงช่วยให้มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่แม่นยำและเชื่อถือได้ ทำให้เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการควบคุมคุณภาพและกระบวนการตรวจสอบ
MetraSCAN 3D ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์สีน้ำเงิน 15 เส้น ความแม่นยำ 25 ไมโครเมตร ความเร็วในการสแกน 1,800,000 ครั้งต่อวินาที ทำให้สแกนได้อย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Tracking
สำหรับการใช้งานในกระบวนการตรวจสอบ MetraSCAN 3D สามารถเลือกข้อมูลการสแกนในรูปแบบ Cloud Point หรือ Polygon ได้ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับชิ้นงานต้นแบบหรือ CAD File ได้
MetraSCAN Handheld 3D Scanner - Portable Optical CMM
ในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ การออกแบบชิ้นส่วนรถยนต์ กันชน หรือ สปอยเลอร์ใหม่ สามารถนำไฟล์ 3D จากการสแกนมาทำวิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) เพื่อขึ้นแบบชิ้นส่วนเหล่านี้ ซึ่งช่วยให้ให้การวัดส่วนโค้งเว้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดย MetraSCAN 3D จะช่วยสแกนและทำการวัดเปรียบเทียบแบบ Colormap ออกมาได้ทันที ตอบโจทย์การผลิตได้ดีกว่าเทคโนโลยีเดิมที่อยู่ในท้องตลาด
นอกจากนี้ CREAFORM ได้ปรับค่า Accuracy ของ HandySCAN3D ให้มีความละเอียดและความแม่นยำสูงระดับ 12 ไมครอน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้งานในกลุ่มงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ
แนวโน้มตลาดเครื่องมือวัดอุตสาหกรรมในประเทศไทย
นายกฤตินเผย ตลาดเครื่องมือวัดอุตสาหกรรมในไทยปีนี้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมหลักอย่างยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ล้วนมีทิศทางการเติบโตที่ดี ในขณะที่แนวโน้มของเทคโนโลยีการผลิตที่เด่นชัด คือ เทคโนโลยีมีความละเอียดสูงขึ้น และต้องการความเร็วในการตรวจสอบมากขึ้น
ความชัดเจนนี้เห็นได้ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตภัณฑ์มีขนาดเล็กลง แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับระดับราคาที่แพงขึ้นเช่นกัน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคเพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ และเป็นแรงผลักดันให้ผู้ผลิตต้องการความรวดเร็วในการตรวจสอบ ต้องการเครื่องมือที่ทันสมัยและเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้น
ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องมือวัดและเครื่องมือทดสอบ Quality Report จึงมีโซลูชันอัตโนมัติและเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาสนับสนุนการควบคุมคุณภาพและกระบวนการตรวจสอบในโรงงาน
นอกจากนี้ การส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ของไทยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีงานวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งในกระบวนการเหล่านี้จำเป็นต้องใช้เครื่องมือวัดและทดสอบที่ทันสมัยเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการเติบโตของเครื่องมือวัด
นายกฤตินกล่าวว่า การสนับสนุนให้เกิดการใช้เครื่องมือวัดและทดสอบที่ทันสมัยในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานวิจัย สถาบันการศึกษา ตลอดจนภาคการผลิตในบริษัทเอกชน จะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศได้ แต่แน่นอนว่าเครื่องมือที่ทันสมัยจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง อีกทั้งยังต้องพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้น การสนับสนุนโดยนโยบายและมาตรการของรัฐก็จะมีส่วนช่วยอย่างมากเช่นกัน
Quality Report คาดการณ์การเติบโตของธุรกิจในปี 2023
นายกฤตินเปิดเผยว่า แม้ปีนี้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะยังมีความผันผวนไม่แน่นอนอยู่มากจากหลายปัจจัย รวมถึงประเด็นใหญ่อย่าง Tech War สงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนสหรัฐฯ ซึ่งมองว่าจะยิ่งเป็นการผลักดันให้ความต้องการในด้านต่าง ๆ สูงขึ้น เพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการกีดกันทางการค้า ดังนั้น หากมองในแง่บวก Tech War จึงส่งผลดีต่อธุรกิจมากกว่าผลเสีย
หนึ่งในกลยุทธ์ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในปีนี้คือ การหาพารทเนอร์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยเพิ่มไลน์อัพสินค้าให้หลากหลายและครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งดำเนินไปด้วยดีทำให้มีพาร์ทเนอร์ทใหม่หลายราย ทั้งจากจีน อเมริกา ไต้หวัน ญี่ปุ่น และอินเดีย
โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำเข้ามาทำตลาดคือ เครื่องมือทดสอบ (Tester) สำหรับแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเชื่อว่าจะมีความต้องการจำนวนมากในอนาคตเพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันบริษัทได้เตรียมความพร้อมในด้านนี้โดยร่วมทำวิจัยและแนะนำผลิตภัณฑ์นี้ให้กับสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แล้ว
นอกจากการเพิ่มไลน์อัพสินค้าแล้ว บริษัทฯ ยังเปิดตลาดใหม่ในกลุ่มอุตสากรรมการแพทย์ อากาศยาน ยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่อีกด้วย จึงเป็นที่คาดการณ์ว่า ปีนี้จะสามารถผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างน้อย 10%