ภาคขนส่ง มาตรการสิ่งแวดล้อม

“ภาคขนส่ง” คิดหนัก เมื่อมาตรการสิ่งแวดล้อมเข้มข้นขึ้น

อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 2564
  • Share :
  • 1,220 Reads   

ปัจจุบันการขนส่งทางเรือมีสัดส่วนคิดเป็น 90% ของการค้าโลก และมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนคิดเป็น 3% ของโลก ทำให้อุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือได้รับแรงกดดันจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะนักสิ่งแวดล้อม

Advertisement

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2021 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในปี 2022 มีความเป็นไปได้ว่าราคาค่าส่งสินค้าทางเรือจะยังคงอยู่ในระดับสูง ผลจากการเร่งยกระดับมาตรการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization: IMO) หน่วยงานด้านการขนส่งภายใต้สหประชาชาติ แสดงความเห็นว่า แม้ในปัจจุบันอุตสาหกรรมขนส่งทางเรือได้ประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายในปี 2050

IMO รายงานว่า ในปี 2021 ทางองค์กรมีความคืบหน้าในด้านกฎระเบียบใหม่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของกองเรือโลก โดยตั้งเป้าออกร่างนโยบายด้านการลดก๊าซคาร์บอนฉบับใหม่ภายในปี 2023 

โดยก่อนหน้านี้ มีการร่างข้อเสนอให้ IMO เพื่อสร้างกองทุนวิจัยและพัฒนามูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการลดการปล่อยก๊าซของอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

แนวโน้มนี้จะส่งผลกระทบต่อประเทศที่มีระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อย และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนเทียบเท่าประเทศพัฒนาแล้ว จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศพัฒนาแล้วควรให้การสนับสนุนในด้านนี้

โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆ อุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือจะต้องการเงินทุนมากถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030 และเพิ่มขึ้นไปถึง 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2050 เพื่อให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเหลือศูนย์ได้ภายในปี 2050 

อย่างไรก็ตาม หาก IMO ยังไม่มีการออกนโยบายที่ชัดเจนแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่ผู้ให้บริการการขนส่งทางเรือจะลงทุนเพิ่ม และในปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมเองมีความสามารถในการต่อเรือลดลงเป็นอย่างมาก และยังอยู่ในภาวะที่เงินทุนมีจำกัดเช่นนี้ การลงทุนมูลค่ามหาศาลย่อมเป็นเรื่องยาก

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH