จีนปฏิเสธข้อกล่าวหา “กำลังการผลิตล้นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า”

อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 2567

จีนโต้ข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ และยุโรป ย้ำ "ความสำเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจีน" มาจากความต่อเนื่องของนวัตกรรม ระบบห่วงโซ่อุปทาน และการแข่งขันในตลาด ไม่ใช่เพราะรัฐบาลจีนให้การอุดหนุนผู้ผลิตอีวี พร้อมยกความดีว่า “อุตสาหกรรมอีวีจีนมีส่วนสำคัญในการตอบสนองระดับโลกต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมคาร์บอนต่ำ”

8 เม.ย. 67 สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า Wang Wentao รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน ได้แสดงความคิดเห็นในการประชุมเจรจาโต๊ะกลมที่กรุงปารีส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน โดยมีตัวแทนบริษัทจากจีนกว่า 10 แห่ง รวมถึง BYD, CATL, และ Geely เข้าร่วม

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่าความสำเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจีนมาจากความต่อเนื่องของนวัตกรรม ระบบห่วงโซ่อุปทาน และการแข่งขันในตลาด มิใช่เพราะการอุดหนุนจากรัฐบาลจีน และข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ และยุโรปเรื่องกำลังการผลิตของจีนที่ล้นตลาดอีวีนั้นเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ โดยอ้างอิงรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ของจีน ระบุถึงความได้เปรียบด้านอีวีของจีนมาจาก “ระบบห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงและการแข่งขันในตลาด”

การอภิปรายโต๊ะกลมมีการถกประเด็นสำคัญเรื่องการสอบสวนต่อต้านการอุดหนุนของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ท่ามกลางหัวข้ออื่น ๆ ตามคำแถลง

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน ตั้งข้อสังเกตว่าอุตสาหกรรม EV ของจีน “มีส่วนสำคัญต่อการตอบสนองระดับโลกต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่ารัฐบาลจีนจะปกป้อง “สิทธิและผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย” ของบริษัทจีน

ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า BEV ปี 2566 รวม 100,214 คัน

ทั้งนี้ สหภาพยุโรปเริ่มการสอบสวนในเดือนตุลาคมเพื่อพิจารณาว่าควรกำหนดอัตราภาษีสำหรับการนำเข้าแบตเตอรี่ EV จากประเทศจีนหรือไม่ “เพื่อชดเชยเงินอุดหนุนจากรัฐ และเพื่อปรับระดับการแข่งขัน” หลังจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้กล่าวเมื่อเดือนกันยายนว่า "ตลาดโลกเต็มไปด้วยยานพาหนะไฟฟ้าราคาถูก" และราคาก็ "ตั้งไว้ให้ต่ำเกินจริง" เนื่องจากมี "เงินอุดหนุนจากรัฐจำนวนมาก"

Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า “มีความกังวลเป็นพิเศษ” เกี่ยวกับผลกระทบของกำลังการผลิตส่วนเกินทางอุตสาหกรรมของจีนที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ต่อประเด็นข้อถกเถียงดังกล่าว รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เดินทางไปเยือนจีน เพื่อประชุมในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงการจัดการความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯ และจีน และส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ โดยหลังจากการประชุมหารือกับ He Lifeng รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน Janet Yellen ได้กล่าวว่า วอชิงตันและปักกิ่งจะจัด “การแลกเปลี่ยนอย่างเข้มข้น” ซึ่งจะ “อำนวยความสะดวกในการหารือเกี่ยวกับความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจมหภาค รวมถึงความเชื่อมโยงกับปัญหาการผลิตที่มากเกินไป”

“ฉันตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันที่เท่าเทียมกันสำหรับคนงานและบริษัทอเมริกัน การออกจากนโยบายที่ผลักดันให้เกิดกำลังการผลิตมากเกินไปจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของอเมริกา จีน และทั่วโลก” รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าว