วิกฤตซัพพลายเชน 2021: ท้าทายการผลิตยานยนต์สหรัฐฯ ไตรมาส 2 ดิ่ง 22.5%

อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 2564

หลายปัญหารุมเร้า ซัพพลายเชนกระทบหนัก ทั้งการขาดแคลนชิป การขึ้นราคาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป ไปจนถึงต้นทุนการขนส่งที่พุ่งสูงขึ้น ซัดยอดผลิตยานยนต์สหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ลดลง 22.5% ขณะที่ราคาขายรถยนต์เฉลี่ยต่อคันสูงกว่า 40,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

Advertisement

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2021 สื่อต่างชาติหลายสำนักรายงานปัญหาด้านซัพพลายเชนได้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก ทำให้กำลังการผลิตรวมต่ำกว่าก่อนการระบาดของโควิด แม้ความต้องการบริโภคจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึงก็ตาม

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ปัญหาทั้งหมดนี้ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index: PPI) ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พุ่งสูงที่สุดในรอบ 11 ปี

ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ เผยกำลังการผลิตรวมของภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิถุนายนลดลง 0.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งนอกจากปัญหาด้านซัพพลายทั้งวัตถุดิบ และการจัดส่งที่ล่าช้าแล้ว ยังมีอีกปัจจัยมาจากการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะอีกด้วย

หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คืออุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งตลอดไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ สหรัฐฯ มียอดผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนลดลงถึง 22.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ยอดผลิตยานยนต์ที่ลดลงนั้นสวนทางกับความต้องการยานยนต์ที่พุ่งสูงจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคายานยนต์เฉลี่ยในเดือนมิถุนายน 2021 สูงกว่า 40,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นผลจากการยกเลิกนโยบายส่งเสริมการขายและส่วนลดหลายรายการ

สื่อสหรัฐฯ หลายสำนักได้อ้างอิงการคาดการณ์จากสำนักวิเคราะห์ยานยนต์ J.D. Power ว่า ค่ายรถและตัวแทนจำหน่าย มีจำนวนยานยนต์เฉลี่ยพอขายได้อีก 39 วันเท่านั้น

นอกจากนี้ ยอดขายยานยนต์ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้อยู่ที่ 4.43 ล้านคัน ลดลง 0.4% จากไตรมาสเดียวกันในปี 2019 ซึ่งเป็นปีก่อนการระบาดของโควิด

รอยเตอร์และบลูมเบิร์กรายงานตรงกันว่า ยอดผลิตยานยนต์ที่ลดลงนี้ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนยานยนต์ใหม่ และกระตุ้นให้รถยนต์มือสองในสหรัฐมีราคาสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนให้หลังมานี้