ญี่ปุ่นลงทุนในประเทศ

‘ญี่ปุ่น’ อนุมัติ 4.3 พันล้านเหรียญ ดันลงทุนในประเทศ

อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 2565
  • Share :
  • 805 Reads   

METI เผยบริษัทญี่ปุ่นตัดสินใจเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการลงทุนในประเทศเกือบ 500 บริษัท อนุมัติงบสนันสนุนรวม 4.3 พันล้านเหรียญ

ในปี 2020 กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (Ministry of Economy, Trade and Industry: METI) ของญี่ปุ่นได้ออกนโยบายสนับสนุนการถอนฐานการผลิตจากประเทศที่กำหนด ภายใต้ชื่อ “โครงการส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ สำหรับซัพพลายเชน ปี 2020” โดยทุ่มงบประมาณ 2.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการขนย้าย และค่าลงทุนเครื่องจักร จากนั้นสงครามรัสเซีย-ยูเครน และปัจจัยแวดล้อมอื่นช่วยกระตุ้นให้เกิดการย้ายฐานการผลิตและลงทุนในประเทศมากขึ้น

Advertisement

ล่าสุด ข้อมูลจากโครงการฯ ฉบับปี 2022 ได้วิเคราะห์จุดอ่อนของซัพพลายเชนโลกที่เกิดจากโควิดไว้ ดังนี้

  • ภาพรวมทั่วโลก การเดินทางลดลงส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางอากาศลดลงตามไปด้วย
  • สหรัฐอเมริกา ประสบปัญหาการเคลื่อยย้ายแรงงานมีทักษะเนื่องจากมาตรการตรวจโควิดคนเข้าประเทศ ซึ่งปัจจุบันมาตรการนี้ถูกยกเลิกแล้ว
  • จีน ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่รุนแรงมากขึ้นเนื่องจากมีแรงงานจำนวนมากยังไม่กลับไปทำงาน อีกทั้งการล็อกดาวน์เป็นระยะยังทำให้การจัดส่งสินค้าล่าช้า
  • อาเซียน เกิดการหยุดชะงักของการจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
  • ยุโรป เกิดการขาดแคลนแรงงาน ใช้เวลาในการดำเนินการส่งสินค้าข้ามประเทศมากขึ้น และมีความล่าช้าในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์

ด้วยจุดอ่อนของซัพพลายเชนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งเห็นถึงความสำคัญในการรักษาฐานการผลิตในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการผลิตสินค้า ชิ้นส่วน และวัสดุที่มีฐานการผลิตนอกประเทศจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการหยุดชะงักของซัพพลายเชน พัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตญี่ปุ่นให้มั่นคง และทำงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ความเข็งแข็งทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นเช่นเดียวกัน

ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปี 2020 และได้สิ้นสุดการเปิดรับสมัครรอบสองเมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 METI เปิดเผยว่า มีการอนุมัติเงินสนับสนุนรวมแล้ว 354 บริษัท แบ่งเป็นจากบริษัทขนาดใหญ่ 134 รายการ จาก SME 215 บริษัท และจากกลุ่ม SME 6 บริษัท โดยแบ่งตามหมวดหมู่สินค้าได้ ดังนี้

  • เซมิคอนดักเตอร์ 106 บริษัท
  • รถยนต์ไฟฟ้า 28 บริษัท
  • อากาศยาน 14 บริษัท
  • กังหันลม 10 บริษัท
  • แบตเตอรี่ 5 บริษัท
  • หน้ากากอนามัย 33 บริษัท
  • แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 26 บริษัท
  • เสื้อกาวน์แพทย์ 18 บริษัท
  • หลอดและเข็มฉีดยา 9 บริษัท
  • โลจิสติกส์ 27 บริษัท
  • อื่น ๆ (เช่น ธาตุแรร์เอิร์ท, จอภาพ, เครื่องมือแพทย์, ถุงมือยาง)

ซึ่งทั้งหมดนี้ คิดเป็นเงินสนับสนุนรวมแล้ว 514,700 ล้านเยน หรือราว 3,618 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนการรับสมัครรอบที่ 3 ปิดรับผู้สมัครในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ระบุว่า มีบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนย้ายฐานการผลิตเพิ่ม 85 บริษัท จากธุรกิจในกลุ่ม Green และ Digital ซึ่งครอบคลุมในส่วนของผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ โดรน อากาศยาน กังหันลม กังหันก๊าซ เครื่องมืแพทย์ และอื่น ๆ แต่ยังไม่มีข้อมูลแบ่งตามหมวดหมู่สินค้า และมีมูลค่ารวมที่ 97,400 ล้านเยน หรือราว 684 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวน 85 บริษัทนี้ มี 13 บริษัทที่ถูกผลกระทบจากกสงครามรัสเซีย - ยูเครน

 

#ญี่ปุ่น #ลงทุนญี่ปุ่น #วิกฤตซัพพลายเชน #Mreport #onlinecontent #ข่าวอุตสาหกรรม

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH