เจาะลึก ครบ 1 ปี Honda ประกาศไทม์ไลน์รถยนต์ไฟฟ้า

อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 2565

ผลตอบรับจากตลาดและนักลงทุนไม่ดีนัก หลังฮอนด้า (Honda) แถลงความคืบหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่เดินทางมาเกือบครบ 1 ปี นับจากประกาศวิสัยทัศน์สู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบปี 2040 เป็นเพราะอะไร ติดตามในบทความนี้

เปิดไทม์ไลน์ฮอนด้าอีวี ในงาน Honda Global CEO Inaugural Press Conference in April 2021

ผู้บริหารระดับสูงของฮอนด้า มอเตอร์ นำโดยนาย Toshihiro Mibe ประธานบริษัท ได้แถลงข่าวผลการดำเนินงานด้านธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2022 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยสำนักข่าว Nikkan Kogyo Shimbun เผยแพร่บทวิเคราะห์ในวันถัดมา รายละเอียดดังนี้

Advertisement

จากเป้าหมายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในปี 2040 แต่ทว่าไทม์ไลน์ระหว่างทางกลับสร้างความประหลาดใจต่อเป้าหมายดังกล่าว นั่นคือ "เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่นภายในปี 2030 และกำลังการผลิต 2 ล้านคันต่อปี" ทำให้ผลตอบรับจากตลาดและนักลงทุนไม่ดีเท่าที่ควร

ในทางกลับกัน ถ้อยแถลงที่ทะเยอทะยานของนาย Toshihiro Mibe ต่อการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ แบตเตอรี่โซลิดสเตต และพันธมิตร ที่กล่าวว่าเป็นสามกุญแจสำคัญของฮอนด้าอีวี ได้ถูกพูดถึงในงานแถลงข่าวครั้งนี้

ฮอนด้า รถยนต์ไฟฟ้า แผนธุรกิจ

รถยนต์ไฟฟ้า “Honda e” จากบริษัทฮอนด้า

นับจากที่นาย Toshihiro Mibe ประธานบริษัทฮอนด้า ประกาศเป้าหมายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2040 ผู้ผลิตชิ้นส่วนก็ให้ความสนใจกับเป้าหมายนี้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเวลาเกือบปีมานี้ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ก็ยังไม่ได้รับรายละเอียดที่ชัดเจน โดยหนึ่งในซัพพลายเออร์รายใหญ่ของฮอนด้าแสดงความเห็นว่า “เป็นการประกาศเป้าหมายโดยไม่มีกลยุทธ์ที่ขัดเจน”

แม้ว่าเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2022 ฮอนด้าจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมแล้ว แต่นาย Seiji Sugiura นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Tokai Tokyo Research Institute แสดงความเห็นต่อเป้าหมายของฮอนด้าว่า “เป็นตัวเลขที่ปลอดภัยเกินไปสำหรับค่ายรถที่ออกตัวทีหลัง”

ไม่ใช่แค่เพียงมุมของนักวิเคราะห์เท่านั้น เพราะหลังการประกาศแผนกลยุทธ์ของฮอนด้าในวันดังกล่าว ราคาหุ้นของฮอนด้าปิดตลาดที่ 3,229 เยน ลดลง 5 เยนจากวันก่อนหน้า นาย Seiji Sugiura วิเคราะห์ว่า เป็นผลจากแผนธุรกิจไม่สามารถแรงกระเพื่อมได้มากพอ และไม่มีความชัดเจนว่าฮอนด้าต้องการพัฒนายานยนต์แบบใด

โดยฮอนด้า ได้ประกาศกุญแจ 3 ดอกที่ไขความสำเร็จให้กับ Honda EV คือ ซอฟต์แวร์ แบตเตอรี่โซลิดสเตต และความร่วมมือระหว่างบริษัทพันธมิตร

แบตเตอรี่โซลิดสเตต สำคัญไฉน?

นาย Shinji Aoyama กรรมการผู้จัดการอาวุโสบริษัทฮอนด้า เปิดเผยว่า ฮอนด้ามีจุดแข็งคือคุณค่าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งไม่จำกัดแค่ผลิตภัณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นในภาพรวมที่ฮอนด้าต้องการให้ความสำคัญมากขึ้นในอนาคต ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อรถยนต์ผ่านเครือข่ายไร้สาย อัปเดตยานยนต์ผ่าน “Over the Air Update (OTA)” เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ยานยนต์ให้ทันสมัย ซึ่งจะเป็นจุดขายของฮอนด้า

ฮอนด้า รถยนต์ไฟฟ้า แผนธุรกิจ

แบตเตอรี่โซลิดสเตตของฮอนด้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

ในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่นั้น นาย Shinji Aoyama เปิดเผยว่าฮอนด้าจะเริ่มเดินสายการผลิตในปี 2024 และจะนำมาใช้กับยานยนต์ที่ออกสู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้เป็นต้นไป

ส่วนในด้านความร่วมมือระหว่างบริษัทพันธมิตรนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุครถอีวี เนื่องจากการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล การร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ จึงมีความจำเป็น และเป็นที่มาของการประกาศเป็นพันธมิตรกับค่ายรถต่าง ๆ อย่างเจเนรัลมอเตอร์หรือ GM

GM ร่วม Honda ตั้งเป้าผลิตรถอีวีในราคาเอื้อมถึง

อย่างไรก็ตาม ทั้งสามข้อข้างต้นยังมีความชัดเจนไม่เพียงพอ โดยนาย Seiji Sugiura วิเคราะห์ว่า หากฮอนด้าพึ่งพาความร่วมมือกับ GM มากเกินไปก็จะมีเกิดความเสี่ยงสูง อีกทั้งวิสัยทัศน์ของฮอนด้าก็ยังไม่สมบูรณ์

สรุปถ้อยแถลงของนาย Toshihiro Mibe ประธาน และ นาย Shinji Aoyama กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทฮอนด้า ภายในงานแถลงข่าว วันที่ 12 เมษายน 2022

ฮอนด้า รถยนต์ไฟฟ้า แผนธุรกิจ

นาย Toshihiro Mibe ประธานบริษัทฮอนด้า

ความเห็นต่อแผนขยายธุรกิจอีวีในเอเชียเป็นอย่างไร

นาย Shinji Aoyama “ทางบริษัทได้เตรียมแชสซีสำหรับยานยนต์ขนาดเล็กไว้เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดญี่ปุ่นและเอเชีย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เข้าสู่ตลาดจนถึงปี 2030 โดยเราจะเริ่มจากรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดเล็กในญี่ปุ่น แล้วจึงนำแชสซีนี้ไปใช้กับการพัฒนารถเล็กและรถมินิป้อนสู่ตลาดเอเชียต่อไป”

นาย Toshihiro Mibe “ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งอรุณของอุตสาหกรรมอีวี ทำให้กลยุทธ์ในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งเราได้วางแผนไลน์อัพรถอีวีให้ครอบคลุมทุกขนาดหลังปี 2030”

อนาคตของรถไฮบริดจะเป็นอย่างไร

นาย Toshihiro Mibe “รถไฮบริดจะยังมีความสำคัญแม้กระทั่งเข้าสู่ปี 2030 ฮอนด้าจึงจะพัฒนารถไฮบริดต่อไป ซึ่งผมคิดว่าในอนาคต รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ฮอนด้าก็จะพัฒนารถ”อบริดต่อเพื่อใช้เป็นอาวุธในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคกลางของสหรัฐอเมริกาซึ่งเครื่องยนต์สันดาปอาจสร้างมูลค่าให้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้ แม้สัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าจะแซงหน้าไปในอนาคต แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างทันที ฮอนด้าจึงจะมุ่งมั่นพัฒนารถไฮบริดต่อไป”

ว่าด้วยโมเดล Sport Cars

นาย Toshihiro Mibe “เรามีแผนเปิดตัวรถไฟฟ้าในโมเดลสปอร์ต 2 รุ่นทั่วโลก และอยากเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้ และอยากให้เฝ้ารอกัน เนื่องจากต้องการให้เป็นรถที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของฮอนด้าในยุครถยนต์ไฟฟ้าออกมาให้ได้ดีที่สุด”

การแข่งขันที่รุนแรงทั้งจาก “อุตสาหกรรมเดียวกัน” และ “ผู้เล่นใหม่จากอุตสาหกรรมอื่น”

การประกาศรายละเอียดแผนธุรกิจของฮอนด้าในครั้งนี้ ทำให้เห็นภาพครบของ 3 ค่ายใหญ่ญี่ปุ่น คือ โตโยต้า นิสสัน และฮอนด้า

อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นในตลาดไม่ได้มีเพียงค่ายรถเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นการเข้าสู่ตลาดของบริษัทไอทีอย่างอินเทลที่มีเป้าหมายประสานความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์จีน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญของบริษัทไอทีซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหม่ คือ กำลังการผลิต ซึ่งก็เริ่มมีบริษัทที่เดินหน้าแก้โจทย์นี้แล้ว เช่น Foxconn

ส่วนในด้านของโซนี่ซึ่งประกาศความร่วมมือกับฮอนด้าไปก่อนหน้านี้ มีกำหนดส่งรถอีวีรุ่นแรกสู่ตลาดภายในปี 2025 ในงานแถลงข่าววันที่ 12 เมษายน 2022 นาย Shinji Aoyama กรรมการผู้จัดการอาวุโสบริษัทฮอนด้า แสดงความเห็นว่า ความร่วมมือกับโซนี่จะเป็นคนละส่วนกับไลน์อัพรถอีวีของฮอนด้า แต่ฮอนด้าก็มีแผนนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ด้านความบันเทิงจากโซนี่มาสร้างมูลค่าให้กับรถยนต์ของฮอนด้าเช่นเดียวกัน

สรุปภาพรวมแผนธุรกิจอีวีของบริษัทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

Toyota ประกาศแผนลงทุน 8 ล้านล้านเยน หรือราว 63,164 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 ซึ่งครึ่งหนึ่งของตัวเลขนี้จะเป็นการลงทุนในธุรกิจรถอีวี เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่น และยอดขาย 3.5 ล้านคันในปีเดียวกัน
Renault–Nissan–Mitsubishi Alliance ลงทุน 2.3 หมื่นล้านยูโร หรือราว 24,807 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในช่วงเวลา 5 ปีนี้ หรือภายในปี 2026 พร้อมแผนเปิดตัวอีวี 35 รุ่นภายในปี 2030
Volkswagen ตั้งเป้ายอดขายรถอีวีเป็นสัดส่วน 50% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2030
General Motors เปิดตัวอีวีมากกว่า 30 รุ่นภายในปี 2025 และยุติการขายยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปทุกชนิดยกเว้นรถบรรทุกขนาดใหญ่ภายในปี 2035
Apple มีข่าวลือจากหลายช่องทางว่าจะจำหน่ายรถอีวีขับขี่อัตโนมัติภายในปี 2025
Foxconn ตั้งเป้าจำหน่ายรถบัสไฟฟ้า และประสานความร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศผ่าน MIH Consortium
Alibaba ร่วมกับ Shanghai Automotive Industry Corporation พัฒนารถอีวีแบรนด์ IM