ทำไม iPhone 14 ถึงราคาแพง?

ล้วงลึก iPhone 14 แพงขึ้น 20% เพราะอะไร?

อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 2565
  • Share :
  • 3,641 Reads   

iPhone 14 แพงขึ้น 20% ไม่ใช่เพียงเพราะประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีสาเหตุจากอะไรบ้าง มาล้วงลึกในบทความนี้

Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 14 เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ในรุ่นใหม่ล่าสุดนี้เสนอราคาเริ่มต้นสูงกว่าทุกรุ่นที่เคยเปิดตัว แม้ส่วนหนึ่งจะมาจากประสิทธิภาพที่สูงขึ้นตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่วิกฤตชิปขาดตลาดและราคาวัตถุดิบก็เป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้เช่นกัน 

ราคาเริ่มต้นของ iPhone 14 ที่สูงกว่า iPhone 13 ราว 20% เป็นข้อกังขาว่า ผู้บริโภคจะยอมรับราคาใหม่นี้ได้มากแค่ไหน??

Advertisement

สาเหตุ iPhone 14 แพงขึ้น 20%

iPhone 14 ทั้ง 4 รุ่น มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 16 กันยายนนี้ ด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังที่มาพร้อมระบบป้องกันการสั่นสะเทือน ภาพที่คมชัดแม้แสงน้อย และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

ฟังก์ชันด้านความปลอดภัยก็ไม่น้อยหน้า โดย iPhone 14 มีคุณสมบัติการตรวจจับการชนกัน และ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมแม้ในพื้นที่อับสัญญาณ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน โดยนาย Tim Cook CEO บริษัท Apple กล่าวภายในงานเปิดตัวที่รัฐแคลิฟอร์เนียว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่จะช่วยเหลือผู้ใช้งานเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว iPhone 14 เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญหน้ากับสภาวะเงินเฟ้อครั้งใหญ่ในรอบหลาบสิบปี ทำให้หลายฝ่ายจับตามองการตอบรับต่อราคาของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งในวันเปิดตัว พบว่า Apple ไม่มีการเปิดตัวรุ่น mini อย่างที่เคยมีใน iPhone 13 และมีราคาเริ่มต้นเพิ่มขึ้นจาก 699 เป็น 799 ดอลลาร์สหรัฐ  

สถาบันวิจัย MMD LABO แสดงความเห็นว่า ไม่เพียงแต่ iPhone 14 เท่านั้น แต่ปัจจุบันผู้ผลิตหลายรายต่างทยอยปรับราคาสมาร์ทโฟนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม คือ ใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานขึ้นก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่

นอกจากนี้ ความนิยมในสมาร์ทโฟนราคาถูกยังเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยสถาบันฯ เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2020-2021 สมาร์ทโฟน 4G และสมาร์ทโฟน 5G เริ่มมีราคาห่างกันมากขึ้น และสมาร์ทโฟน 5G ราคาแพงมียอดขายลดลงอย่างมากในปี 2021 

ในปี 2021 ญี่ปุ่นมียอดขายสมาร์ทโฟนที่ราคาสูงกว่า 90,000 เยน หรือ 630 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 18.5% จากปีก่อนหน้า ในขณะที่ยอดขายสมาร์ทโฟนที่ราคาต่ำกว่า 30,000 เยน หรือ 210 ดอลลาร์สหรัฐ กลับมียอดขายเพิ่มขึ้น 8.8%

ทำไมสมาร์ทโฟนปัจจุบันมีราคาแพงกว่าเมื่อก่อน

หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาสมาร์ทโฟนแพงขึ้นมาจากวิกฤตชิปขาดตลาดซึ่งทำให้ราคาชิปเซมิคอนดักเตอร์พุ่งทะยาน โดย TSMC ซัพพลายเออร์ชิปประมวลผลรายใหญ่ของ Apple ได้ปรับราคาชิปขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ในขณะที่ผู้ผลิตวัตถุดิบอย่างซิลิคอนเวเฟอร์และก๊าซที่ใช้ในการผลิตแผงวงจรเองก็ประสบปัญหาต้นทุนจากค่าพลังงานและค่าขนส่ง ทำให้หลายบริษัทจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชยกับการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต

นาย Akira Minamikawa ผู้อำนวยการที่ปรึกษาอาวุโส สำนักวิเคราะห์ Omdia Japan เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ชิปที่ใช้ในสมาร์ทโฟนมีราคาสูงขึ้นจาก 2 ปีก่อนราว 20 - 30%

ทำไม iPhone 14 ถึงราคาแพง?

Actuator สำหรับกล้องสมาร์ทโฟนจากบริษัท MinebeaMitsumi 

ในทางกลับกัน Gartner รายงานว่า เมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม 2022 อัตราการเติบโตของยอดขายชิปเซมิคอนดักเตอร์ลดลงจาก 13.6% เหลือ 7.4% เนื่องจากค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์

นาย Akira Minamikawa แสดงความเห็นเสริมว่า ในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมา ภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในจีน และค่าพลังงานที่พุ่งสูงในยุโรป ทำให้กำลังการผลิตและความต้องการชิปลดลง ในขณะที่ราคาชิปไม่ว่าจะเป็นชิปหน่วยประมวลผลหรือชิปหน่วยความจำต่างก็มีราคาพุ่งสูง

ด้วยเหตุนี้เอง ราคาของสมาร์ทโฟนรวมถึง iPhone หลังจากนี้จะเป็นไปตามสถานการณ์ราคาชิปเซมิคอนดักเตอร์

นอกเหนือจากชิปแล้ว อีกสาเหตุคือต้นทุนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนที่เพิ่มขึ้น และจำนวนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่อสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องที่มากขึ้น ซึ่งแม้ว่าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ส่วนมากจะมีต้นทุนเป็นราคาวัตถุดิบไม่สูงนักหากเทียบกับราคาชิ้นส่วน อีกทั้งสามารถลดต้นทุนได้ง่ายด้วยการผลิตให้มากขึ้น แต่ก็มีชิ้นส่วนบางชิ้นที่มีต้นทุนราคาวัตถุดิบสูงอย่างเด่นชัด

หนึ่งในชิ้นส่วนที่มีต้นทุนวัตถุดิบสูง คือ แบตเตอรี่ลิเธียมโพลิเมอร์ ซึ่งกลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุน Goldman Sachs ประเมินว่า ต้นทุนวัตถุดิบมีสัดส่วนอยู่ที่ 40% ของราคาแบตเตอรี่ สูงกว่าตัวเก็บประจุเซรามิกแบบหลายชั้น (MultiLayer Ceramic Capacitors: MLCC) ที่มีราคาวัตถุดิบเพียง 20% ของราคาขายเท่านั้น

โดย TDK แสดงความเห็นว่า ปัจจุบันราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่อย่างลิเธียมเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งจะทำให้ราคาแบตเตอรี่สูงขึ้น และกระทบต่อราคา iPhone ตามไปด้วย

ในด้านจำนวนชิ้นส่วนที่มากขึ้นในสมาร์ทโฟนแต่ละเครื่องจนส่งผลกระทบต่อต้นทุนนั้น ไม่ได้มีผลกับ iPhone เท่านั้น แต่ยังกระทบกับสมาร์ทโฟนยุคใหม่แทบทั้งหมด เนื่องจากเทคโนโลยี 5G ทำให้สมาร์ทโฟนต้องใช้อุปกรณ์รับส่งสัญญาณและหน่วยประมวลผลมากกว่าสมาร์ทโฟนยุคที่ผ่านมา

Alps Electric และ MinebeaMitsumi เสริมว่า กล้องของสมาร์ทโฟนเองก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้สมาร์ทโฟนแพงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากกล้องสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีความก้าวหน้ามากขึ้น ระบบ Actuator เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนของระบบกล้องจึงมีจำนวนชิ้นส่วนมากขึ้นตามไปด้วย

และอีกปัจจัยคือ Crystal Oscillator ซึ่งเป็นอุปกรณ์กำเนิดสัญญาณความถี่ขนาดเล็กนั้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนำมาสู่ความต้องการ Crystal Oscillator ที่เล็กลง แม่นยำขึ้น เพื่อรองรับเทคโนโลยี Ultra-wideband (UWB) ได้ ทำให้การผลิตต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูงขึ้นตามไปด้วย โดยมีตัวอย่างคือ Nihon Dempa Kogyo และ Daishinku ซึ่งนำเทคนิคการผลิตเซมิคอนดักเตอร์มาใช้ผลิต Crystal Oscillator เพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กและบางลงกว่าการแมชชีนนิ่ง

 

ที่มา: Nikkan Kogyo SHimbun

 

#Apple #iPhone14 #ไอโฟน14 #ชิปขาดตลาด #Mreport #onlinecontent #ข่าวอุตสาหกรรม

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH