Sony Mobility VISION-S 02

Sony Mobility Inc. เปิดตัวแล้ว พร้อมเผยโฉม VISION-S รุ่น SUV

อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 2565
  • Share :
  • 1,596 Reads   

โซนี่ สร้างความสนใจในแวดวงยานยนต์อีกครั้ง หลังประกาศจัดตั้ง Sony Mobility Inc. เพื่อลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมเปิดตัวรถต้นแบบ VISION-S 02 ในงาน CES 2022 

Advertisement

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2022 โซนี่ (Sony Group Corporation) ได้เผยแผนจัดตั้ง Sony Mobility Inc. โดยกำหนดจัดตั้งบริษัทดังกล่าวในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ นับเป็นบทใหม่ที่ส่งสัญญาณถึงความเอาจริงเอาจังในการเข้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของโซนี่ 

สำหรับ Sony Mobility Inc. จะขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเข้ามาเติมเต็มความสุขให้กับผู้คน และมีส่วนร่วมในสังคม ผ่าน VISION-S ยานยนต์แห่งวิวัฒนาการที่ให้ความคล่องตัว ร่วมกับ aibo หุ่นยนต์เพื่อความบันเทิง และโดรน Airpeak 

เปิดตัว VISION-S รุ่น SUV ภายในงาน CES 2022

“VISION-S 02” รถยนต์ SUV รุ่นต้นแบบซึ่งใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ VISION-S 01 แต่ได้พัฒนาให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางขึ้น โดยมีที่นั่งได้สูงสุดถึง 7 ที่นั่ง เพื่อรองรับความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ในอนาคต 

ก่อนหน้านี้ โซนี่ได้จัดแสดงโมเดลต้นแบบ VISION-S 01 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของโซนี่ซึ่งเป็นรถเก๋งซีดานในงาน CES 2020 และสร้างเสียงฮีอฮาเป็นอย่างมาก 

VISION-S เริ่มเข้าสู่การทดสอบวิ่งบนถนนยุโรปในช่วงปลายปี 2020 พร้อมเข้ารับการทดสอบเทคโนโลยีเซนเซอร์และความปลอดภัย ไปจนถึง human-machine interface (HMI) system ในปีเดียวกัน จากนั้นจึงเริ่มทดลองนำเทคโนโลยี 5G มาติดตั้งในเดือนเมษายน 2021 และยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ของรถยนต์ไฟฟ้า

ภายในงาน CES 2022 โซนี่เปิดเผยว่า VISION-S ได้ทดสอบใช้เทคโนโลยี 5G ควบคุมยานยนต์จากทางไกล โดยร่วมมือกับ Vodafone Germany ในการควบคุมยานยนต์ข้ามประเทศ ซึ่งผู้ขับขี่ได้ทดลองขับ VISION-S ผ่านอุปกรณ์ควบคุมในญี่ปุ่น ในขณะที่ตัวยานยนต์จริงวิ่งอยู่ในสนามทดสอบที่เยอรมนีด้วยระบบ Telematics ปัจจุบันโซนี่อยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความเสถียรยิ่งขึ้น

นอกจากการควบคุมการขับขี่จากทางไกลแล้ว VISION-S ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัย การปรับแต่งการใช้งานตามผู้ใช้รถ และเติมเต็มความบันเทิงในระหว่างขับขี่ ผ่านการพัฒนาและผสานเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ 

VISION-S ใช้ระบบรองรับการขับขี่อย่างปลอดภัยด้วยการจดจำและวิเคราะห์สภาพแวดล้อมโดยรอบแบบเรียลไทม์ โดยติดตั้งเซนเซอร์ 360 องศารอบคันซึ่งประกอบด้วยเซนเซอร์ภาพ CMOS ช่วงไดนามิกกว้าง ความไวสูง ความละเอียดสูง และเซนเซอร์ LiDAR ที่ตรวจจับพื้นที่สามมิติได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ระบบยังสามารถใช้ระบบเสียงของรถยนต์และระบบ HMI เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถตัดสินสถานะของสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างแม่นยำ เช่น การแจ้งเตือนเมื่อมีรถฉุกเฉินอยู่ในระยะใกล้อีกด้วย และขณะนี้กำลังดำเนินการทดสอบการตรวจสอบการทำงานในยุโรปเกี่ยวกับการเปิดตัวระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ขั้นสูงระดับ 2 ขึ้นไปบนถนนสาธารณะ

Advertisement

เซนเซอร์อีกรูปแบบที่ถูกนำมาใช้ คือ ToF (Time-of-Flight) ซึ่งใช้ในการยืนยันตัวตนผู้ขับและผู้โดยสาร รวมไปถึงรองรับการสั่งการยานยนต์ด้วยเสียง ไปจนถึงการปรับค่าต่าง ๆ ของยานยนต์ให้สอดรับกับความต้องการของผู้ขับขี่ โดยเชื่อมโยงรถกับคลาวด์ผ่านมือถือ รองรับเครือข่าย 5G  เช่น การตั้งค่ารถ ล็อคกุญแจ และการตั้งค่าผู้ใช้ ไปจนถึงตั้งค่าเสียงเร่งเครื่องยนต์ จอภาพ และอื่น ๆ อีกด้วย จึงเป็นไปได้ที่จะให้การรักษาความปลอดภัยและพัฒนาฟังก์ชันการบริการได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับความบันเทิงในรถนั้น โซนี่ถือว่ามีเทคโนโลยีที่ได้เปรียบในด้านนี้อย่างมาก โดย VISION-S ติดตั้งระบบเสียงสามมิติและบริการสตรีมมิ่ง 360 Reality Audio ที่ให้ประสบการณ์ทางดนตรีสมจริง ไปจนถึงบริการวิดีโอดิจิทัลแบบครบวงจร BRAVIA CORE for VISION-S ทำให้สามารถเล่นวิดีโอแบบแชร์ หรือเล่นทีละรายการบนหน้าจอพาโนรามาด้านหน้าและจอแสดงผลสำหรับเบาะหลังแต่ละตัวได้ 

และในยุคนี้อีกหนึ่งความบันเทิงในรถยนต์ การเล่นเกม PlayStation® ผ่านการเชื่อมต่อระยะไกลกับคอนโซลที่บ้าน หรือเล่นเกมสตรีมมิ่งผ่านระบบคลาวด์ก็เป็นไปได้ใน VISION-S

 

 

#VISION-S #Sony #Electric Vehicles #รถยนต์ไฟฟ้า #ยานยนต์ #อุตสาหกรรมยานยนต์ #โซนี่ #CES 2022 #Sony Mobility #M Report #mreportth #ข่าวอุตสาหกรรม

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH