จับตา BYD โดดเด่น ล้มแชมป์ Tesla ครึ่งแรกปี 2022

อัปเดตล่าสุด 8 ก.ค. 2565

BYD ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกแซงหน้า Tesla ได้สำเร็จในครึ่งแรกของปีนี้ ด้วยยอดขาย 640,000 คัน เติบโต 315% เพราะอะไร ติตตามในข่าวนี้

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2022 สื่อหลายสำนักรายงาน BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ได้ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในครึ่งแรกของปี 2022 แซงหน้าเทสล่า (Tesla) ซึ่งเป็นผู้นำตลาดรถอีวีในระดับโลกได้สำเร็จ

Tesla นำขึ้นราคาอีกระลอก รถอีวีอื่นตาม หลังสู้ต้นทุนพุ่งไม่ไหว

Advertisement

โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 BYD ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งอีวีและปลั๊กอินไฮบริด (PHV) รวมแล้วกว่า 640,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 315% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่เทสล่าทำยอดได้ 564,743 เพิ่มขึ้น 46% อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะรถอีวีอย่างเดียวแล้วเทสล่ายังคงทำยอดได้สูงกว่าอยู่

Forbes แสดงความเห็นว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ที่พุ่งทะยานนั้นเป็นผลจากการผลักดันมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลจีนที่จูงใจให้ผู้บริโภคซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และอีกสาเหตุสำคัญคือ BYD มีราคาเริ่มต้นที่ราว 32,800 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถูกกว่าเทสล่าเป็นอย่างมาก

นาย Edison Yu นักวิเคราะห์จากธนาคารดอยซ์ แบงก์ เปิดเผยกับ Forbes ว่า ผู้ผลิตยานยนต์จีนมีความพยายามเป็นอย่างมากในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ซึ่งผู้เล่นรายใหม่จำนวนมากพร้อมที่จะทำกำไรน้อยลงหากสามารถทำให้มีส่วนแบ่งในตลาดมากขึ้น

Nikkei Asia วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่เทสล่าทำยอดขายได้ไม่ดีนัก เกิดจากการล็อกดาวน์ในจีนในช่วงไตรมาสที่ 2 ส่งผลต่อกำลังการผลิตลดลงเป็นอย่างมาก แต่ BYD ได้รับผลกระทบไม่รุนแรงนักเนื่องจากไม่มีโรงงานสำคัญในพื้นที่ล็อกดาวน์ อีกทั้งยังรายงานเพิ่มเติมว่าไม่เพียงแต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ BYD ยังสามารถทำยอดขาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแซงหน้า LG ที่เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่อันดับ 2 ของโลกได้อีกด้วย โดยเริ่มทำยอดขายแซงหน้าได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ที่ผ่านมา

ส่วน Financial Times แสดงความเห็นว่า สาเหตุที่ BYD แซงหน้าเทสล่าได้นั้นเนื่องจาก BYD มีเทคโนโลยีที่เป็นสิทธิบัตรจำนวนมาก มีประสบการณ์ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง อีกทั้งสามารถผลิตตัวกักเก็บพลังงาน รวมถึงชิปได้อีกด้วย ทำให้เป็นบริษัทที่สามารถผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้ด้วยต้นทุนต่ำที่สุดในโลก