ญี่ปุ่นตั้งเป้า เพิ่มยอดขายชิป 3 เท่าทั่วโลกภายใน 2030

‘ญี่ปุ่น’ ตั้งเป้าโต 3 เท่า ดันยอดขายชิป 1.13 แสนล้านเหรียญ ภายในปี 2030

อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 2566

ญี่ปุ่นปรับกลยุทธ์ชิงส่วนแบ่งตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก ตั้งเป้ายอดขายชิป 1.13 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปี 2020

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2023 กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) จัดการประชุมทบทวนกลยุทธ์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และดิจิทัล เพื่อผลักดันยอดขายชิปเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดโลกให้ขึ้นไปอยู่ที่ 15 ล้านล้านเยน (1.13 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี 2030

เป้าหมายที่ประกาศใหม่นี้เป็นการเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากปี 2020 และมากกว่าตัวเลขที่เคยประกาศไว้เมื่อปี 2021 ซึ่งตั้งเป้าหมายที่ 1.3 ล้านล้านเยน (9.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

อัปเดตสถานการณ์ชิป 2023

Advertisement

อย่างไรก็ตาม สื่อญี่ปุ่นระบุถึงการเดินสู่เป้าหมายนี้ของรัฐบาลจำเป็นต้องมีการลงทุนในอุตสาหกรรมชิปทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนรวม 10 ล้านล้านเยน (7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้

อัปเดตลงทุนเครื่องจักรผลิตชิป front-end ปี 2023 - 2024

ความพยายามในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความสำคัญของเซมิคอนดักเตอร์ต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลทั่วโลกสนับสนุนการลงทุนอย่างเข้มข้น ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังต้องการสนับสนุนการขยายอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ผ่านสนุนนโยบายต่าง ๆ สร้างระบบการจัดหา และจุดยืนในซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์โลกอีกด้วย

METI เผยว่า ตัวเลขเป้าหมาย 15 ล้านล้านเยน (1.13 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นตัวเลขที่จำเป็นต่อการสร้างจุดยืนให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่นในระบบซัพพลายเชนโลก และเป็นตัวเลขที่ประเมินถึงการเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปไฮเทคของ TSMC ในญี่ปุ่นแล้ว

ที่ผ่านมาในช่วงทศวรรษ 1980 ญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดชิปเซมิคอนดักเตอร์ราวครึ่งหนึ่ง แต่ปัจจุบันส่วนแบ่งของญี่ปุ่นเหลือเพียงราว 10% เท่านั้น

นอกจากนี้ สื่อได้อ้างอิงคำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม นาย Yasutoshi Nishimura ถึงการเข้าสนับสนุนการลงทุนของ TSMC และ Kioxia ในญี่ปุ่น ซึ่งคาดการณ์ว่าการให้เงินอุดหนุนจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นอย่างมาก โดยเชื่อมั่นว่าการเข้าสนับสนุนการลงทุนเช่นนี้จะสามารถดึงดูดเงินทุนและบุคลากรทั้งจากในและนอกญี่ปุ่นได้มากขึ้นทั้งในระยะกลางและระยะยาว ซึ่ง METI มีแผนปรับปรุงกลยุทธ์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และดิจิทัล และนำมาปรับใช้ภายในช่วงกลางปีนี้