ชิปขาดตลาด 2022 วิกฤตชิปลุกลาม

สถานการณ์ชิปขาดตลาด 2022 จะสิ้นสุดเมื่อไหร่?

อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 2565
  • Share :
  • 12,450 Reads   

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 วิกฤตชิปขาดตลาดยังคงสร้างความปั่นป่วนในซัพพลายเชนการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างรุนแรง สินค้าไอทีหลายชนิดไม่อาจผลิตได้ทันจนเกิดภาวะขาดตลาด และหลายรายการมีการปรับขึ้นราคามากกว่า 10% 

Advertisement

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2022 International Data Corporation (IDC) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกยังคงประสบกับวิกฤตชิปขาดตลาดและปัญหาซัพพลายเชนจากการระบาดของโควิดระลอกใหม่ และการขาดแคลนแรงงาน

Nina Turner ผู้จัดการฝ่ายวิจัยจาก IDC's Enabling Technologies and Semiconductor team แสดงความเห็นว่า การขาดแคลนชิปจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ตลอดช่วงครึ่งปีแรก หลังจากนั้นสถานการณ์จะคลี่คลายลงหากไม่มีการปิดโรงงานหรืออุปสรรคอื่น ๆ เพิ่มเติม และจะฟื้นตัวต่อเนื่องไปจนถึงปี 2023

ปัญหาการขาดแคลนชิปส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมา ทำให้ราคาจำหน่ายยานยนต์พุ่งสูงขึ้น 

หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ชิปขาดตลาด คือราคาของชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งในปีที่ผ่านมา พบว่าชิปที่ขาดตลาดส่วนใหญ่แล้วเป็นชิป mature process node หรือชิปที่ผลิตด้วยกระบวนการผลิตขนาด 28 นาโนเมตรหรือมากกว่า ซึ่งเป็นชิปที่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหลัก และมีสัดส่วนมากถึง 67% จากทั่วโลกในปี 2021

อย่างไรก็ตาม ชิปเหล่านี้มีราคาต่ำกว่าชิปที่ใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เป็นอย่างมาก จากการศึกษาของ IDC พบว่าชิป leading edge process nodes ซึ่งถูกใช้ในอุตสาหกรรมไฮเทคนั้น แม้จะมีสัดส่วนเพียง 15% แต่เมื่อเทียบเป็นมูลค่าแล้วกลับมีสัดส่วนมูลค่ามากถึง 44% ของตลาดโลก ซึ่งราคาที่ต่างกันนี้เอง ทำให้หลายบริษัทให้น้ำหนักกับการลงทุนชิปเหล่านี้มากกว่าชิปที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์

ในอีกด้านหนึ่งของความเคลื่อนไหวในการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ IDC เปิดเผยว่า ในปี 2021 รายได้ของบริษัท fabless semiconductor หรือบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบชิป แต่ไม่มีโรงงานผลิตชิปของตัวเอง มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คาดการณ์ว่า ยอดขายรวมของบริษัท fabless semiconductor ที่มีสัดส่วน 41% ของตลาดโลกในปี 2020 จะเพิ่มขึ้นเป็น 49% ในปี 2025 

Rudy Torrijos ผู้จัดการฝ่ายวิจัยจาก IDC's Enabling Technologies and Semiconductor team คาดการณ์ว่า กำลังการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ในเอเชียแปซิฟิกจะมีการเติบโตเป็นอย่างมาก สืบเนื่องจากการเร่งลงทุนเสริมกำลังการผลิตของจีนและเกาหลีใต้ ส่วนไต้หวันซึ่งเป็นเจ้าตลาดก็จะยังคงมีการเติบโตที่ต่อเนื่องและมั่นคงจาก TSMC และซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเร่งลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตจากหลายบริษัททั่วโลก แต่กว่าที่โรงงานเหล่านี้จะเริ่มผลิตได้จริงก็อาจไม่ทันกับปี 2022 นี้ IDC จึงคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตชิปจะฟื้นตัวจะสูงขึ้นอย่างเด่นชัดในปี 2023 เป็นต้นไป

Mario Morales รองประธาน IDC's Enabling Technologies and Semiconductor team แสดงความเห็นว่า วิกฤตชิปขาดตลาดที่เริ่มต้นในช่วงต้นปี 2021 ทำให้ราคาเฉลี่ยของเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2022 นี้ 

อย่างไรก็ตาม ปริมาณชิปที่เพิ่มขึ้นและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหลังผ่านพ้นช่วงกระตุ้นการฟื้นตัวจะทำให้สถานการณ์ชิปขาดตลาดลดความรุนแรงลง และความท้าทายในปีนี้จะเป็นในเรื่องของการขาดแคลนวัสดุและการจ้างบริษัทอื่นประกอบและทดสอบเซมิคอนดักเตอร์แทน

 

#ชิปขาดตลาด #วิกฤตชิปลุกลาม #semiconductor #อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ #Mreport #ข่าวอุตสาหกรรม #onlinecontent

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH