สหรัฐฯ จับมือ อียู รวมพลังเป็นหนึ่ง สู้ “วิกฤตชิปขาดตลาด” สรัางความมั่นคงระยะยาว

สหรัฐฯ จับมือ อียู รวมพลังสู้ “วิกฤตชิปขาดตลาด” สรัางความมั่นคงระยะยาว

อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 2564
  • Share :
  • 697 Reads   

สองมหาอำนาจ สหรัฐฯ - ยุโรป จับมือ ยกระดับซัพพลายเชนและ Ecosystem ด้านเซมิคอนดักเตอร์ เลี่ยงการแข่งขันลงทุนดึงผู้ผลิตภาคเอกชน ลดความเสี่ยง มุ่งหามาตรการจูงใจที่เหมาะสมร่วมกันอีกด้วย

Advertisement

เมื่อเดือนมิถุนายน 2021 สหรัฐฯ - อียู ได้ร่วมกันก่อตั้ง สภาการค้าและเทคโนโลยีสหรัฐฯ - สหภาพยุโรป (U.S.-EU Trade and Technology Council) หรือ TTC  เพื่อประสานแนวทางร่วมกันในประเด็นสำคัญด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และการค้าระดับโลก และเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก บนพื้นฐานตามค่านิยมประชาธิปไตย

โดยการประชุมครั้งแรกของ TTC ได้ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2021 ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก ในรัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐฯ แม้ว่าก่อนการประชุมจะต้องเจออุปสรรคที่ทำให้การประชุมครั้งนี้เกือบจะต้องล้มเลิก เนื่องจากฝรั่งเศสไม่พอใจการตัดสินใจของออสเตรเลียที่จะขอยกเลิกข้อตกลงเรือดำน้ำ  อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ และอียูได้ผลักดันจนเกิดการประชุมได้สำเร็จ

หนึ่งในหัวข้อสำคัญของการประชุมพูดถึงเรื่องชิปเซมิคอนดักเตอร์ โดยแถลงการณ์บนเว็บไซต์ทำเนียบขาวรายงานว่า เบื้องต้น TTC จะมุ่งแก้ปัญหาวิกฤตชิปขาดตลาดในระยะสั้น ก่อนจะเข้าสู่การยกระดับซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์ให้มั่นคง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว 

โดยจะมีการยกระดับ Ecosystem ด้านเซมิคอนดักเตอร์ทั้งในสหรัฐฯ และอียู ทั้งด้านการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ ืการผลิตชิปในอนาคต รวมถึงความร่วมมือเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตชิปประสิทธิภาพสูงเพื่อลดการผูกขาด และร่วมกันลดช่องว่างทางเทคโนโลยีระหว่างทั้งสองฝ่าย

ที่สำคัญ รัฐบาลสหรัฐฯ และอียู มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการหลีกเลี่ยงการแข่งขันเพื่อดึงดูดผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง และร่วมกันหามาตรการจูงใจที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนอีกด้วย

โดยแถลงการณ์ของทำเนียบฯ ได้แสดงความเห็นต่อเซมิคอนดักเตอร์ไว้ ดังนี้
 

“เรายอมรับว่าเซมิคอนดักเตอร์เป็นวัสดุพื้นฐานสำหรับแผงวงจรรวมซึ่งจำเป็นต่อชีวิตสมัยใหม่ และเป็นพลังขับเคลื่อนทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน การดูแลสุขภาพ การเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า การผลิต การป้องกันประเทศ และโลจิสติกส์ ”

 

ทาง TTC เล็งเห็นว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้เซมิคอนดักเตอร์มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำงาน การศึกษา และการแพทย์ทางไกล ซึ่งวิกฤตชิปขาดตลาดสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเซมิคอนดักเตอร์ในชีวิตประจำวันที่มากขึ้นอีกด้วย

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH