รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมดึงอำนาจในการบริหารการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในรัฐแคลิฟอร์เนียกลับมาเป็นของรัฐบาลกลาง รวมถึงยกเลิกอำนาจในการกำหนดจำนวนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าภายในรัฐดังกล่าวด้วย

บลูมเบิร์ก รายงานอ้างแหล่งข่าวนิรนามที่ใกล้ชิดกับประเด็นดังกล่าวว่า รัฐบาลทรัมป์ริเริ่มความพยายามครั้งใหม่ในการปรับปรุงมาตรฐานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากยุคประธานาธิบดีบารัก โอบามา ครั้งนี้เล็งโจมตีรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นรัฐพลังงานสะอาดด้วย โดยเตรียมเสนอร่างกฎหมายต่อสภาในสัปดาห์หน้า
มีการคาดการณ์ว่า ในร่างกฎหมายดังกล่าว นอกจากกฎหมายกระตุ้นการใช้พลังงานเชื้อเพลิงทั่วประเทศต่อเนื่องจนถึงทศวรรษหน้าแล้ว จะมีการเสนอยึดอำนาจการบริหารด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐแคลิฟอร์เนียกลับมาเป็นของรัฐบาลวอชิงตัน ยกเลิกกฎหมายคลีนแอร์ของมลรัฐที่บังคับใช้ในปี 2009 และยกเลิกตัวเลขขั้นต่ำที่ทางมลรัฐบังคับให้ค่ายรถยนต์ต้องจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าด้วย

ทั้งนี้รัฐแคลิฟอร์เนียถือเป็นรัฐที่มีนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อมและต่อต้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศอย่างโดดเด่น มีการกำหนดการปล่อยมลพิษขั้นต่ำจากยานพาหนะ และเป็นรัฐแรกที่กำหนดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ปี 1975 ซึ่งหากข่าวลือการเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ต่อสภาเป็นจริง การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลมลรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อชิงสิทธิ์น่าจะเกิดขึ้นและยืดเยื้อ

อย่างไรก็ตาม แคลิฟอร์เนียพร้อมอีก 16 รัฐ และวอชิงตัน ดี.ซี.ได้ยื่นฟ้องศาลเมื่อ 2 พ.ค. เพื่อบล็อกไม่ให้ทรัมป์คว่ำเป้าหมายลดมลพิษปี 2020 ของโอบามาที่ต้องการลดก๊าซเรือนกระจกลง 28% ภายในปี 2020
เมื่อปีที่แล้ว หลังเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ได้ลงนามถอนตัวออกจากข้อตกลงกรุงปารีส ซึ่งเป็นข้อตกลงเพื่อร่วมกันลดโลกร้อนและต่อต้านการใช้ถ่านหิน เนื่องจากเขาวิพากษ์ว่าข้อตกลงดังกล่าว ทำให้ประชาชนตกงานเพราะโรงงานปิดตัวลง หลังจากใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงไม่ได้ ซึ่งถือเป็นคำสั่งประธานาธิบดีที่ช็อกคนทั้งโลกอย่างยิ่ง