เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน SEMI เผยผลคาดการณ์เม็ดเงินลงทุนด้าน Semiconductor Manufacturing Equipment สำหรับงาน Pre Process เช่น การผลิตแผงวงจรบนแผ่นเวเฟอร์เซมิคอนดัคเตอร์ จะสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 หรือเท่ากับโตไปจนถึงปี 2019 โดยคาดการณ์ว่าในปี 2018 จะเพิ่มขึ้น 14% และในปี 2019 จะเพิ่มขึ้น 9% ตามลำดับ ซึ่งที่แล้วมานั้น การเติบโตต่อเนื่อง 4 ปีเคยมีเพียงครั้งเดียวคือในช่วงปี 1993 - 1997 เท่านั้น

โดยในประเทศจีนที่รัฐบาลตั้งเป้าการเติบโตด้านเซมิคอนดัคเตอร์ไว้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการพัฒนาประเทศนั้น คาดการณ์ว่าในปี 2018 จะมีการเติบโต 65% หรือเท่ากับเพิ่มไปอยู่ที่ 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ และในปี 2019 ที่ 57% หรือเท่ากับ 1.80 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งในทั้ง 2 ปีนี้ กว่า 60% ของการเติบโตล้วนมาจากการลงทุนโดยธุรกิจจากต่างชาติ เช่น Intel ของสหรัฐฯ และ SK Hynix ของเกาหลีใต้

ส่วนในญี่ปุ่นนั้น ในปี 2018 คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโต 60% หรือเท่ากับเพิ่มไปอยู่ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการเพิ่มเงินลงทุนของ Toshiba, Renesas Electronics, และ Micron Technology

โดยรายงานฉบับนี้ วิเคราะห์และจัดทำขึ้นโดย SEMI ซึ่งรวบรวมข้อมูลการลงทุน ด้าน Semiconductor Manufacturing Equipment สำหรับงาน Pre Process ทั่วโลก และคาดการณ์ว่าหลังโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ก็จะเข้าสู่ “Silicon Cycle” ซึ่งจะทำให้การเติบโตล่าช้าลงเป็นอย่างมาก  อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าการคาดการณ์ฉบับนี้ จะกลายเป็นตัวชี้วัดว่าความต้องการเซมิคอนดัคเตอร์ในระยะยาวจะเพิ่มขึ้นและเข้าสู่ “Super Cycle” ได้