ไลท์ติ้ง 2.6 หมื่นล้านจ่ออิ่มตัว “ฟิลิปส์” ลุย IOT

อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 2561
  • Share :
  • 370 Reads   

“ฟิลิปส์ ไลท์ติ้ง” เร่งขยายฐานบีทูบีรับมือตลาดแสงสว่างภาคครัวเรือนจ่ออิ่มตัว ชูนวัตกรรมไอโอทีปั้นจุดขายตอบโจทย์อุตฯ ค้าปลีก-บริการและหน่วยงานรัฐ เดินหน้าปั้นกระแสสมาร์ทโฮมจับลูกค้าไฮเอนด์ พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นซิกนิฟาย

นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดแสงสว่างของไทยมูลค่า 26,000 ล้านบาท ปีนี้มีโอกาสเติบโต 20% สูงกว่าปีที่แล้วที่เติบโตประมาณ 10% เนื่องจากเทรนด์ประหยัดพลังงานที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนหลอด ทั้งในฝั่งผู้บริโภคทั่วไปและองค์กรรัฐ-เอกชนที่ต้องการควบคุมต้นทุน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการใช้แสงสว่างมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้เล่นเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นรวมกว่า 100 ราย หวังชิงดีมานด์ จนการแข่งขันราคาดุเดือดทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเปลี่ยนหลอดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม การเติบโตรวดเร็วต่อเนื่องนี้ทำให้มีความเสี่ยงที่ตลาดอาจส่งสัญญาณอิ่มตัวในช่วงปี 2561-2563 เพื่อรับมือจึงปรับกลยุทธ์หันมาเน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรทั้งโรงงาน ค้าปลีกและการบริการ หน่วยงานรัฐ รวมถึงใช้นวัตกรรมไอโอที (internet of things-IOT) ที่ยังมีคู่แข่งน้อยมาเป็นจุดขายหลัก โดยนำมาสร้างโซลูชั่นแบบเทเลอร์เมดที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละราย เช่น ระบบนำทางในห้าง-ร้านค้า ซึ่งนอกจากสร้างความแตกต่างและการรับรู้แล้ว คู่ค้ายังได้ฐานข้อมูลผู้บริโภคไปต่อยอดอีกด้วย

พร้อมเดินหน้าจัดสัมมนา-เวิร์กช็อปรวมถึงการเดินสายแนะนำสินค้าของทีมขายเน้นย้ำประโยชน์ด้านค่าใช้จ่ายและการสร้างความแตกต่าง มุ่งเจาะกลุ่มนักออกแบบและสถาปนิก ซึ่งมีอิทธิพลกับการเลือกสินค้า

ส่วนฝั่งผู้บริโภคทั่วไปจะเน้นแอลอีดีหลอดยาวแบบทูบ สำหรับทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่เป็นหลอดยอดนิยมของไทย เนื่องจากยังมีราคาสูงกว่าหลอดประหยัด 4-5 เท่า แต่มีแนวโน้มลดลงเช่นเดียวกับหลอดกลม จึงยังมีโอกาสทำตลาดกับผู้บริโภคที่ยังไม่เปลี่ยนหลอดอีกมาก พร้อมเริ่มสร้างกระแสสมาร์ทโฮมด้วยไลน์อัพหลอดไฟ “ฟิลิปส์ ฮิว”

นอกจากนี้ยังเตรียมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “ซิกนิฟาย” ตามนโยบายของบริษัทแม่ หลังแยกบริษัทจากรอยัลฟิลิปส์ครบ 18 เดือน โดยจะเป็นการเปลี่ยนทั่วโลก สำหรับประเทศไทยอยู่ระหว่างยื่นจดทะเบียนในชื่อใหม่ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ ทั้งนี้ไม่มีผลกับสินค้า เนื่องจากยังได้รับสิทธิ์ให้ใช้ชื่อแบรนด์ฟิลิปส์ต่อไปตามปกติ