Nissan เผย รีไซเคิลแบตเตอรี่ Leaf

อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 2561
  • Share :
  • 669 Reads   

Nissan ประกาศฟื้นฟูสภาพแบตเตอรี่ใช้แล้วของรถยนต์ไฟฟ้า Leaf ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้น โดยมีกำหนดออกสู่ตลาดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ในฐานะชิ้นส่วนทดแทนสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ และตอบสนองต่อความต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของผู้ใช้ Leaf รุ่นแรก ที่ออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 2012 อีกทั้งการรีไซเคิลแบตเตอรี่ยังเป็นการเสริมศักยภาพให้กับรถยนต์เก่าอีกด้วย

ทุ่มกำลังคืนสภาพแบต

ผู้รับผิดชอบในการฟื้นฟูสภาพแบตเตอรี่ใช้แล้ว คือ 4R Energy บริษัทร่วมทุนซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย Nissan และ  Sumitomo เมื่อเดือนกันยายน ปี 2010 และไม่นานมานี้บริษัทก็ได้ทำการลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ขึ้นที่เมืองนามิเอะ จังหวัดฟุคุชิมะ เพื่อใช้ในการรีไซเคิลแบตเตอรี่ยานยนต์โดยเฉพาะ โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้จากการรีไซเคิลนี้จะมีกำลังไฟ 24 กิโลวัตต์ และมีราคาอยู่ที่ 300,000 เยน ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการมากถึงหลายร้อยยูนิตต่อปี

Mr. Eiji Makino ประธานบริษัท 4R Energy ได้ย้ำถึงความสำคัญของการเปิดตัวธุรกิจนี้ในเมืองนามิเอะว่าเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามฟื้นฟูเมืองนามิเอะหลังเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ ซึ่งในครั้งนี้ 4R Energy และ Nissan ได้ร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉิน ภายใต้โครงการฟื้นฟูฟุคุชิมะ “Fukushima innovation & cost structure” ซึ่งนำโดยรัฐบาลญี่ปุ่น และคาดว่าแบตเตอรี่รีไซเคิลนี้เอง จะถูกนำมาพัฒนาต่อเป็นแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินได้อีกด้วย

โดยประธาน Makino เล็งเห็นว่า การฟื้นฟูสภาพแบตเตอรี่จะขยายตัวมากยิ่งขึ้นในอนาคต จากการเติบโตของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า และราคาของวัสดุสำหรับแบตเตอรี่ที่จะแพงขึ้น จึงได้ลงทุนไลน์การผลิตให้โรงงานนามิเอะให้มีกำลังการผลิตแบตเตอรี่ที่ 2,250 ยูนิตต่อปี และคาดว่าจะสามารถเพิ่มขึ้นไปได้ถึง 10,000 ยูนิตต่อปีในปี 2020

ลดเวลาให้น้อยลง

เมื่อโรงงานนามิเอะได้แบตเตอรี่มาแล้ว จะทำการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ได้มา แล้วแยกแบตเตอรี่ที่ยังมีประสิทธิภาพสูงเอาไว้เพื่อใช้กับ Leaf ส่วนแบตเตอรี่เกรดที่มีประสิทธิภาพรองลงมาจะถูกนำไปใช้กับรถยก หรือนำไปวางจำหน่ายเป็นแพ็คเกจพร้อมอุปกรณ์ที่รองรับให้พร้อมใช้งาน และมีการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับวิเคราะห์แบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบัน ได้ประสบความสำเร็จในการวิเคราะห์แบตเตอรี่ทั้งหมด 48 โมดูลของ Leaf ด้วยเวลาเพียง 4 ชม. หรือเท่ากับเพียง 1% จากเวลาเดิมที่ต้องใช้ (400 ชม.)

อีกสาเหตุที่ทำให้ความต้องการการฟื้นฟูสภาพแบตเตอรี่ให้กับ Nissan Leaf คือรถยนต์มือสอง ซึ่ง Mr. Hideyuki Sakamoto EVP บริษัท Nissan ได้กล่าวว่าในปัจจุบัน ราคารถยนต์ไฟฟ้ามือสองมีราคาถูกกว่ารถยนต์มือหนึ่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ ทำให้ผู้ซื้อลังเลว่าจะซื้ออะไร ซึ่งการนำแบตเตอรี่เก่ามาฟื้นฟูสภาพนั้น นอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของรถยนต์ไฟฟ้ามือสองให้มากขึ้นแล้ว จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับราคารถใช้แล้ว ซึ่งเป็นการกระตุ้นความต้องการรถยนต์มือหนึ่งให้สูงขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับธุรกิจนี้ คือ ยอดขายของ Leaf รุ่นแรก นั้นอยู่ที่ประมาณ 10,000 คัน ซึ่ง Mr. Sakamoto กล่าวว่าต้องใช้เวลานาน แบตเตอรี่จึงจะวนกลับมาถึงทางบริษัท ซึ่งก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการรับแบตเตอรี่ของ PHV “Outlander PHEV” ของ Mitsubishi ซึ่งเป็นพันธมิตรมาใช้ในการฟื้นฟูสภาพแทน อย่างไรก็ตาม การจะทำเช่นนั้นได้ จำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลของแบตเตอรี่และรถยนต์ที่ใช้กับทาง Mitsubishi เสียก่อน ด้วยเหตุนี้แล้ว การที่ธุรกิจนี้จะเติบโตได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทนี้ได้หรือไม่