เรียกว่ามาแรงฉุดไม่อยู่จริง ๆ กับเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles: EV) เมื่อค่ายรถยนต์หลายค่ายจึงเริ่มหันหน้าหนีจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันหันมาให้ความสนใจในเรื่องการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยตอนนี้มีโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าออกสู่สายตาทั่วโลกไปแล้วหลายคัน หลายประเทศก็ประกาศจะเข้าสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้า คนไทยเองก็ดูเหมือนจะให้ความสนใจกับเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ไม่น้อย แต่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องล่ะจะมีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร

เรามาฟังคุณครรชิต ไชยสุโพธิ์ กับการตอบคำถามหลังได้รับตำแหน่งประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (Chairman of the Automotive Industry Club) ถึงมุมมองเรื่องประเทศไทยจะประกาศเข้าสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าว่าอนาคตประเทศไทยจะได้เข้าสู่สังคมรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนประเทศอื่น ๆ หรือเปล่า

คุณครรชิตกล่าวว่า “ประเทศเราจะก้าวตามทันประเทศอื่น ๆ ได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทั้งหน่วยงานราชการที่ต้องออกนโยบายที่เกื้อหนุน เหล่าผู้ประกอบการไทย รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วน จริง ๆ ก็พูดถึงเรื่องนี้กันมาสักพักแล้ว แต่ก็ยังมีบางกลุ่มครับที่ไม่อยากเปลี่ยนแปลง บ้างก็ว่าประเทศไทยจะรีบไปไหน จะไปให้ถึงจุดนั้นเพื่ออะไร”

“จริง ๆ หากเรามองดูดี ๆ นะครับ อุตสาหกรรมยานยนต์ของยุโรปหรืออเมริกา แม้แต่ในเอเชียอย่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลีเขาก็ไปถึงจุดนั้นแล้วเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นผมคิดว่ามันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกที่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยก็ต้องก้าวไปถึงจุดนั้นเหมือนกัน”

พร้อมทั้งยังเอ่ยต่อ “ผมมองว่ามันมีความจำเป็นที่ประเทศไทยเราต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการ กลุ่ม SMEs หรือ ผู้ผลิตชิ้นส่วน ให้พร้อมก้าวไปจุดนั้น แม้แต่ตัว Brand Owner เอง หรือ บริษัทรถยนต์ทุกบริษัทก็ต้องมีแผนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีหลายขั้นตอน”

“ในประเทศไทยเองถ้าคุณให้ผมบอกล่ะก็มี Hybrid, Plug-in Hybrid ไปจนถึงแบตเตอรี่ EV หรือ Fuel Cell ก็ถือว่าเป็นการสร้างกำลังไฟฟ้าและขับเคลื่อนด้วยมอร์เตอร์ไฟฟ้า ก็ถือว่าเป็นยานยนต์ไฟฟ้าส่วนหนึ่งครับ”

และเมื่อเราได้เอ่ยย้ำถามถึงความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะก้าวสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจีนกับอินเดีย คุณครรชิตก็ได้ตอบกลับมา “ใช่ครับ แต่มันต้องดำเนินไปเป็นทีละขั้นตอนนะครับ เราใช้คำว่าเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า แต่ว่ามันก็ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นมากกว่า เรายังอยู่เพียงขั้นที่ 1 เท่านั้นเองครับ เส้นทางการเข้าสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้ายังต้องเดินอีกไกล ต้องการความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน”

พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า “วันนี้ผมเองก็มางานของทางค่ายรถยนต์ค่ายหนึ่ง มาแสดงความยินดีที่ทางนั้นได้เปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นแห่งแรกของ ASEAN มันก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่ขั้นหนึ่งนะครับที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพราะถ้าไม่มีใครเริ่มต้นก็จะไม่มีใครลงมือตามมาครับ การที่ประเทศเราจะได้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับ Plug-in Hybrid เนี่ยผมถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลยครับ”